อนาคตอันสดใสและท้าทายของมนุษยชาติเปิดเผยกับ Colette Baron-Reid

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 0:00
เป็นสิ่งเดียวกัน เมื่อฉันมองไปยังอนาคต ฉันจำอนาคตได้ ฉันจำสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ ฉันจำมันได้ เรากำลังผ่านการเปลี่ยนแปลงระดับโลก ซึ่งวัฒนธรรมที่แตกต่างกันมากมายได้ทำนายไว้ เมื่อฉันยอมจำนนและยอมจำนนต่อชีวิตทางจิตวิญญาณ นั่นคือตอนที่มันน่าสนใจ ฉันรู้แค่บางอย่างเกี่ยวกับคนตาย มีความแตกต่างกันอย่างมากระหว่างการไล่ตามกับการรับ เทคโนโลยีภายในของฉันเองนั้นยิ่งใหญ่กว่าที่ฉันรู้ และงานของฉันคือการแยกตัวออกจากตัวตนที่ถูกจำกัด ฉันตระหนักว่าฉันได้รับข้อมูลเดียวกันจากที่ฉันใช้แต่งเพลง จากที่ฉันได้รับข้อมูลจากสัญชาตญาณ ดังนั้นทุกอย่างจึงมาจากช่องทางเดียวกัน เสียง ฮาร์โมนิก สิ่งต่างๆ เช่นนั้นสามารถทำให้ฉันมีสติได้

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 0:56
ฉันอยากต้อนรับ Colette Baron Reid มาร่วมรายการ คุณสบายดีไหม Colette

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 0:59
ฉันสบายดี ฉันตื่นเต้นมากที่จะได้ไปออกรายการของคุณ ขอบคุณที่ให้ฉันได้ไปร่วมรายการ Zoom เราไปที่นั่นไม่ได้ แต่ครั้งหน้าฉันจะไปแน่นอน

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 1:07
ไม่มีปัญหาเลย ขอบคุณมากที่อยู่ที่นี่ ฉันตั้งตารอการสนทนาของเรา งานของคุณ ประวัติของคุณ และสิ่งที่คุณทำนั้นน่าสนใจมาก คำถามที่ฉันมักจะถามสื่อวิญญาณและผู้สื่อสารที่มาร่วมรายการคือ ชีวิตของคุณเป็นอย่างไรก่อนที่ความวิกลจริต ความโกลาหลที่สื่อวิญญาณเข้ามาในชีวิตของคุณ เพราะอย่างที่ฉันพูดเสมอว่า มีงานง่ายๆ มากมายในโลกนี้ การทำผับ การเป็นสื่อวิญญาณสาธารณะนั้นแตกต่างอย่างมากจากการไปงานคาร์นิวัลที่ไม่มีใครรู้จักคุณ แต่การเป็นสาธารณะ การเขียนหนังสือ การขึ้นรายการ การขึ้นทีวีเครือข่าย เป็นสิ่งที่ง่ายกว่าในการทำสิ่งต่างๆ ที่นั่น ชีวิตของคุณเป็นอย่างไรก่อนหน้านี้ ก่อนที่ทุกอย่างจะแย่ลง

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 1:11
ใช่. แล้วมันก็ทำอย่างนั้นเช่นกัน มันเหมือนกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันอยากจะเอาออกไปจากพื้นก็ไปที่อื่นแล้ว และสิ่งนี้ก็ยังคงปรากฏขึ้นมา แต่ฉันก็มีแบบนี้อยู่เสมอ ดังนั้น ฉันอยากจะบอกคุณว่าตอนที่ฉันยังเป็นเด็ก ฉันมีโอกาสเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่ฉันไม่ควรเข้าถึงได้ ฉันจะรู้เรื่องนี้ได้ยังไง? แม่ฉันเองก็ยังถามเลยว่า แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าจะมีการโทรครั้งนั้นเกิดขึ้น เพราะฉันแค่เผลอพูดบางสิ่งบางอย่างออกไป ซึ่งมันไม่มีความหมายสำหรับฉันเลย แต่มันกลับมีความหมายมากสำหรับคนอื่นๆ คงจะแบบเงียบๆ หน่อย ประมาณว่า คุณเพิ่งพูดอะไรไป ประมาณนั้นใช่มั้ย? เมื่อฉันเป็นเช่นนั้น ฉันก็มีสิ่งนี้ แล้วนี่มันยุ่งวุ่นวายกับชีวิตฉันก่อนที่จะกลายเป็นอาชีพนี้ใช่มั้ย? ตอนเด็กๆ ฉันมักจะฝันร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า เกี่ยวกับผู้คนผอมๆ ยืนเรียงแถวอยู่ที่โต๊ะ แล้วก็มีผู้ชายผอมแห้งคนหนึ่งร้องไห้ แล้วก็มีฟัน แล้วก็มีทองคำเป็นกอง และฉันรู้ว่ามีฟันอยู่เพราะฉันคิดว่ามันน่าจะมีประมาณสามหรือสี่ซี่ เพราะว่าฉันได้สูญเสียฟันไปบ้างแล้ว และฉันก็รู้เรื่องนางฟ้าฟันแล้ว และพวกมัน ฉันรู้ว่าพวกมันมีลักษณะอย่างไร ฉันจึงรู้ว่าพวกมันมีฟันและเป็นทอง แล้วฉันก็คิดว่าเป็นอย่างนั้น ฉันมีกลิ่นเหม็นอย่างมาก ฉันจำได้ว่ากลิ่นนั้นเหม็นมาก และแล้วก็มีหิมะตก ซึ่งเป็นหิมะที่สกปรกมาก แล้วฉันก็เห็นคนถูกยัดเข้าไปในเตาอบง่ายๆ เราก็มีเตาอบแบบอบง่ายใช่ไหม? แม่จะไม่มารับฉันตอนที่ฝันนั้นหรอกนะ เธอคิดว่าเวลาไหนก็ตามที่ฉันอยากจะคลานขึ้นไปบนเตียงกับแม่ตอนที่ฉันฝันร้าย ฉันก็จะไม่เป็นอะไร ฉันจะมาที่นี่ บลาๆ บลาๆ แต่ฉันบอกได้ว่ามีบางอย่างแตกต่างออกไปเมื่อฉันฝันแบบนั้น และเธอก็บอกว่า จริงๆ แล้วเธอไม่ได้ต้องการที่จะกอดฉันหรืออะไรก็ตาม เหมือนกับว่ากลับไปนอนต่อ คุณก็โอเคประมาณนั้นใช่ไหม? เร็วไปข้างหน้า และขออภัย ฉันเข้าใจว่ามีบางอย่างผิดปกติ ใช่ไหม มีบางอย่างอันตรายเกี่ยวกับการเข้าถึงนี้ และฉันไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร เพราะไม่มีใครรู้ ไม่มีใครบอกฉัน ดังนั้น มาลองย้อนเวลาไป 20 กว่าปีหรือ 25 ปีหลังจากที่พ่อแม่ของฉันสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปจากข้อตกลงหนึ่ง พ่อของฉันเป็นผู้พัฒนาที่ดิน แม่ฉันดื่มไปนิดหน่อย ฉันถูกเลี้ยงดูมาแบบคริสเตียนนิกายแองกลิกัน คือ นิกายโรมันคาธอลิกที่ไม่มีพระสันตปาปา และฉันก็รักมัน ฉันชอบไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ ฉันเป็นเหมือนคนคริสตจักรจริงๆ ฉันอยากเป็นแม่ชีตอนที่ไปโรงเรียนคาทอลิก แล้วแม่ของฉันก็ดึงฉันออกมาจากตรงนั้น ปรากฏว่าปู่ของฉันเป็นชาวยิวเซฟาร์ดิก และเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการต่อต้านฝรั่งเศส เจ้าหน้าที่ SS จับกุมปู่ของฉันที่หน้าประตูบ้านของเธอ ซึ่งเธอถูกนำตัวมาเพราะแม่ของเธอเสียชีวิต เธอถูกระเบิดที่เบอร์ลิน และเธอถูกซ่อนอยู่ในครอบครัวนี้ ฉันเดานะ ครอบครัวคริสเตียน เพราะมีเลือดชาวยิวอยู่ในตัวเธอมากกว่าหยดเดียว ใช่ไหม? ดังนั้น? แล้วนางก็บอกว่า เอาอันนั้นไป เพราะว่าฉันมีไม้กางเขนติดตัวอยู่ เธอซื้อฉัน เธอดื่มไปมากเกินไปเล็กน้อย ถอดสิ่งนั้นออก แล้วผมก็ถามว่าคุณซื้อมันมาทำไม? สำหรับฉันมันสวยงาม เธอไปเพราะคุณเป็นชาวยิว เช่นอะไร? ใช่ แต่ฉัน แต่ดูเหมือน คุณรู้ไหม แม่ของแม่ฉันไม่ใช่ชาวยิว ตามที่ชาวยิวบอก ฉันไม่ได้เป็นอย่างนั้น เพราะฉันไปทำเรื่องลำดับวงศ์ตระกูลทุกอย่างหลังจากนั้น และทุกๆ อย่าง และยังไงก็ตาม นั่นคือสิ่งที่เธอพูด เพราะฉันฝันแบบนั้น ประเด็นคือเขาถูกฆ่าตายในค่ายกักกัน Dachau ใช่หรือไม่? เขาถูกจับไปฆ่าที่นั่น ความฝันทั้งหมดที่เธอทิ้งไป ความฝันที่คุณเคยมีในตอนนั้น นั่นก็คือเรื่องราวทั้งหมด แล้วฉันก็แบบ โอ้โห ตอนนั้นก็จบแค่นั้นใช่ไหม? แล้วนี่ก็ผ่านมา 20 ปีแล้ว ฉันก็เพิ่งตระหนักได้ว่า โอเค แต่ทุกอย่าง ใช่มั้ย? นี่คือสิ่งที่ฉันติดตาม เพราะแม่ของฉันอยู่ที่เบอร์ลินระหว่างสงคราม พ่อแม่ของพวกเขาไม่ได้แต่งงานกัน แม่ของเธอดูเป็นพวกแฟลปเปอร์หรืออะไรประมาณนั้น และนอนกับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นชาวยิวฝรั่งเศส ท้องแล้ว. แม่ของฉันเกิด และที่เหลือก็เป็นประวัติศาสตร์ แต่แล้วเราก็พยายามติดตามมันทั้งหมดจนพบ แต่ประเด็นคือ ฉันอายุแค่สามหรือสี่ขวบ และฉันก็ฝันถึงเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มานานหลายปี ข้อมูลที่ฉันได้เก็บรวบรวมเกี่ยวกับผู้คนทำให้ฉันรู้สึกราวกับว่าฉันไม่รู้ว่าฉันจบลงตรงไหน และคนอื่นเริ่มต้นตรงไหน ฉันอยากจะบอกว่า ฉันสบายดี จนกระทั่งวันหนึ่ง ฉันประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ และจู่ๆ ก็มีคนบอกฉันว่าไม่ใช่ฉันอีกต่อไป ฉันไม่ได้มีประสบการณ์พวกนั้นเลย ฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยจะดีเลย ไม่เคยเหมาะสมที่ไหนเลย ฉันเชื่อเสมอว่าฉันไม่เหมาะกับที่ไหนเลย และฉันพบว่าตัวเองพยายามจะเป็นใครก็ได้ที่ฉันควรจะเป็น แล้วฉันไม่เคยรู้สึกปลอดภัยเลยตลอดชีวิตใช่ไหม? ฉันแค่รู้สึกว่าฉันเป็นใคร เช่นนี่คืออะไร? โชคดีที่พ่อของฉันและพ่อกับแม่ของฉันเป็นคนดีมาก ฉันแค่อยากจะพูดสิ่งนี้ พ่อของผมเป็นผู้ชายที่ไม่ธรรมดา และตอนนี้ผมรู้แล้วว่ามันน่าทึ่งขนาดไหนเมื่อผมเติบโตมากับพ่อ เพราะทันทีที่เราสามารถอ่านหนังสือได้ หรือผมได้ยินเสียงพ่อก็จะให้นั่งลงกับผมกับน้องสาว แล้วเล่าให้เราฟังเกี่ยวกับอริสโตเติล แอตแลนติส เพลโต และเรื่องอื่นๆ ทั้งหมด ฉันแค่อยากเล่นกับเจอร์บิลของฉัน แต่เขาอยากให้เราเล่นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ? ฉันจึงนั่งฟัง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ฉันรู้สึกได้คือเขาเล่าเรื่องมนุษย์ต่างดาวให้พวกเราฟังใช่ไหม และและและใครคือผู้สร้างมนุษย์จริงๆ ฯลฯ พ่อของฉันเป็นเพียงคนธรรมดาๆ ตามความเป็นจริง. โอเค ตามความเป็นจริง แล้วฉันก็รู้สึกว่า ฉันโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ฉันอายุแปดขวบ เราเคยอาศัยอยู่ที่หมู่เกาะเวสต์อินดีสอยู่พักหนึ่ง เขาเป็นผู้พัฒนาที่ดินและเขาก็ได้ ฉันตื่นขึ้นตอนกลางดึกพร้อมกับพ่อของฉันและเราเห็นสิ่งต่างๆ บนท้องฟ้า ลุกขึ้นมาเลยดีกว่า ไปดูกันดีกว่าไหม? แล้ววันหนึ่งเราก็เห็นมันบินลงไปในมหาสมุทร แล้วมันก็เหมือนอะไรล่ะ? และอีกอย่าง เมื่อตอนที่ฉันยังเป็นเด็ก ประมาณปีหนึ่งก่อนหน้านั้น ฉันก็ถูกเยี่ยมเยียนแบบแปลกๆ เหล่านี้ เหมือนฉันรู้ว่าฉันกำลังผลักดันทุกอย่างที่คุณถามฉัน ก่อนที่จะมาเป็นอย่างนี้มันเกิดอะไรขึ้นนะ?

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 8:05
เมื่อคุณเริ่มก่อนที่คุณจะออกมาจากตู้เสื้อผ้า ดังนั้นเมื่อคุณพูดถึงเรื่องของมนุษย์ต่างดาว คุณกำลังพูดถึง Anunnaki ซึ่งมีพื้นฐานมาจากข้อความสุเมเรียน และมันเป็นเรื่องประวัติศาสตร์ ใช่ ใช่ มันเยอะมาก ใช่ไหม แน่นอนว่ามันเยอะมาก

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 8:21
แต่เราไม่รู้ 100% ว่ามันคืออะไรหรือมันคืออะไร แต่แน่นอน ใช่แล้ว ฉันจะบอกว่าใช่ เพราะเขาเป็นเพื่อนกับใครบางคนชื่อ Eric Von Daniken และเทพเจ้าหลายองค์ที่เขาเคยทำสไลด์โชว์ ดังนั้นฉันก็อยู่ตรงนั้น ฉันคงอยู่ได้ไม่นาน ฉันไม่รู้หรอกว่ามันจะออกมาในช่วงยุค 60 อะไรก็ตาม พ่อของฉัน ฉันจะไปกับพ่ออย่างเคร่งครัด และเราจะนั่งดูสไลด์โชว์เหล่านี้ และใช่แล้ว ในเวลานั้น พ่อเรียกมันว่าอย่างนั้น แต่เรารู้ว่ายังมีมิติพิเศษอีกมากมาย คุณรู้ไหม ฉันจะพูดว่ามิติพิเศษ เพราะฉันจะเล่าให้ทุกคนฟังว่าฉันสื่อสารกับใคร สำรับไพ่ออราเคิลชุดล่าสุดของฉันเป็นไพ่จากมิติอื่นโดยสิ้นเชิง แต่นั่นทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัยว่า โอเค ฉันรู้ว่ามีบางอย่างอยู่ที่นั่น คุณรู้ไหม มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของความเข้าใจของฉันว่านี่คือสิ่งที่โลกเป็น โลกเป็นมากกว่าสิ่งที่โลกเป็น และยังมีอีกมากมายให้ค้นพบ และเขาก็ทำให้มันเป็นของเขา เขาจะไปหาแอตแลนติสและบินไปที่สามเหลี่ยมเบอร์มิวดาและเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย พ่อของฉันก็แค่... ฉันถูกปลูกฝังในเรื่องพวกนี้มาตั้งแต่เด็ก แต่เขาก็เป็นคนมีสติมากเช่นกัน เหมือนว่าเขาไม่ใช่คนประเภทที่คิดเรื่องทฤษฎีสมคบคิด เขาบอกว่า สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจจริงๆ ที่เราควรเรียนรู้ ใช่ไหม? มันน่าสนใจมาก แต่ว่ามันอยู่ที่นั่น แต่ฉันควรจะเป็นทนายความนะ ดังนั้น เมื่อรู้เรื่องทั้งหมดนี้ และคุณรู้ไหมว่า การได้สัมผัสกับสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด และมีความฝันที่ฉันมี และมีความสามารถที่ฉันมี เราก็ไม่ได้มีสิ่งนั้น เรากำลังจะ... เราจะไปเรียนกฎหมาย เพราะว่าที่นั่น ผู้อพยพ พ่อแม่ของฉัน พ่อของฉันเป็นชาวเซอร์เบีย เขาชอบเล่าให้พวกเราฟังว่าเราเป็นลูกหลานโดยตรงของเจงกีสข่าน เพราะคุณย่าทวดของฉันเป็นคนมองโกเลีย เขาเลยบอกว่านั่นเป็นของคุณย่าทวดของเขา โอ้ เขาภูมิใจในเจงกีสข่าน และเขาก็จะแสดงกล่องเหล่านั้นให้พวกเราดู

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 10:16
นั่นคือเสียงที่ฟังดูยิ่งใหญ่มาก งานแต่งงานแบบกรีกที่อ้วนท้วน พ่อมักจะพูดว่าเขาเป็น เขาเป็น เขาเป็นญาติกับอเล็กซานเดอร์มหาราช ใช่ หรืออะไรทำนองนั้น

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 10:26
ใช่ ใช่ แต่จริงๆ แล้ว ฉันเพิ่งค้นพบเพราะในช่วงหลังของชีวิต เมื่อฉันเริ่มมองดูหลังจากพวกเขาเสียชีวิต และฉันเริ่มพยายามทำความเข้าใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์มองโกลมากขึ้นเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่ามันชัดเจนมาก และสำหรับชาวมองโกลทุกคนที่จะพูดว่าพวกเขาเป็นเจงกีสข่านโดยตรง เพราะพวกเขามองว่าเจงกีสข่านเป็นพระเจ้า

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 10:42
จริงๆ แล้ว ในทางพันธุกรรม เขาก็แพร่เชื้อให้ประชากร 10% จริงเหรอ? มีเจ้าหน้าที่มากมาย ฉันหมายถึง เขามีลูกเป็นร้อยคน หลายร้อยคน

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 10:55
หลายร้อยใช่ไหม?

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 10:56
หลายร้อยใช่แล้ว เขาทำส่วนของเขาแล้ว

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 10:59
เขาทำมันแยกกันอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในบอลข่าน ซึ่งเป็นบ้านเกิดของพ่อฉัน ใช่ไหม? ดังนั้น และ และ ฉันก็ คุณรู้ไหม หลังจากทำ DNA ทั้งหมดแล้ว ฉันก็มีเชื้อสายสลาฟบอลข่าน 90% หรือ 80% ใช่ไหม? ดังนั้น ดังนั้น ยังไงก็ตาม ดังนั้น ดังนั้น มีทั้งหมดนี้ ดังนั้น มีข้อความที่ผสมปนเปกัน และสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ เมื่อฉันยังเด็ก ฉันคิดว่าฉันอายุ 80 หรือ 12 ปี ไม่ เมื่อฉันยังเด็กกว่านี้มาก ฉันจำได้ว่านางเคลลี่เป็นพี่เลี้ยงเด็กของฉัน เธอมาจากสกอตแลนด์ ดังนั้นพ่อแม่ของฉันจึงมักจะออกไปข้างนอก และเธอมีคุณยายแก่ๆ คนหนึ่ง ฉันไม่รู้ว่าเธอจะร้องเหมือนกบหรือเปล่า เธอมีปัญหากับหลอดอาหารของเธอ เธอมีกลิ่นแปลกๆ เธอมักจะมีลูกอมสีม่วงอยู่ในปากเสมอ และเธอก็มีบริษัทเล็กๆ แน่นๆ แบบนี้ และเธอก็ทำให้เรากินซุปแย่ๆ ที่เธอทำ แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็บอกแม่ของฉันว่าฉันมีไซต์นี้ ตอนนี้ฉันรู้ว่าเราไม่ได้รับอนุญาตให้พูดสำเนียงแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว เพราะมันเป็นการนำวัฒนธรรมมาใช้ แต่ฉันเคยพูดสำเนียงสก็อตได้ดีมาก ดังนั้นตอนนี้ฉันจะไม่พูดแล้ว แต่ยังไงก็ตาม เธอพูดกับแม่ของฉันว่า ลูกสาวของคุณมองเห็นได้ และฉันจำได้ว่าฉันอยู่ที่ประตูบานสวิงจากห้องอาหารเข้าไปในครัว และแม่ของฉันอยู่ที่นี่ ฉันได้ยินเธอพูดว่า ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ เราจะไม่ทำ เราจะไม่ทำ แม่ของฉันไม่พอใจกับเรื่องนั้น และฉันก็สับสนมาก เพราะทุกคนในครอบครัวสวมแว่น และฉันคิดว่านั่นหมายความว่าฉันไม่จำเป็นต้องใส่แว่นถ้าฉันมองเห็นได้ ใช่ไหม? เหมือนกับว่าคุณต้องให้เรา ทำไมเธอไม่ใส่แว่น? ฉันทำความคุ้นเคยกับเรื่องนี้ และทั้งหมดนี้ แต่ผู้หญิงคนนี้ที่ล่วงลับไปแล้วจะเชิญเพื่อนๆ ของเธอมาที่บ้าน เธออ่านไพ่ และแม่ของฉันจะออกไปข้างนอก เธอเป็นคนทรง ดังนั้นเธอจึงเชิญเพื่อนๆ ของเธอมาที่บ้าน และฉันเห็นพลังงานทั้งหมดนี้ตลอดเวลาเมื่อเพื่อนๆ หญิงชราตัวน้อยของเธอมาที่บ้าน และเธออ่านไพ่เล่น ใช่ไหม? ฉันจำได้ว่าเห็นพลังงานที่จับต้องได้ในห้องนั้น และฉันรู้สึกดึงดูดใจมาก และเธอรู้ว่าฉันมองเห็นบางอย่าง และเธอให้กำลังใจฉัน ฯลฯ แต่ความทรงจำเหล่านี้ก็เหมือนจะขาดๆ เกินๆ และคุณคงไม่มีเรื่องราวชีวิตทั้งหมดในรายการของคุณที่นี่ แต่เร็วเข้า คุณพ่อสอนฉันอ่านถ้วยกาแฟตุรกี พ่อของฉันสอนฉันอ่านถ้วยกาแฟตุรกี แม้ว่าผู้ชายคนเดียวกันจะอยากให้ฉันเป็นทนายความ แต่ใช่แล้ว คุณพ่อสอนฉันอ่านถ้วยกาแฟตุรกี ฉันเลยคิดว่า

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 13:17
เหมือนกากกาแฟ เหมือนกากกาแฟ

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 13:19
ใช่แล้ว เหมือนกับว่ามันคือกาแฟตุรกี และคุณต้องต้มมันในซามาวาร์ จากนั้นคุณอ่านพื้นดิน และเมื่อคุณพลิกมัน มันก็จะคล้ายกับทัสซิโอ มานซีเล็กน้อย มันมีรสชาติดี แต่มันไม่เหมาะกับชา ดังนั้นเขาจึงสอนฉันเกี่ยวกับสัตว์วิญญาณ เพราะในประเพณีสลาฟ พวกเขามีสัตว์วิญญาณ มันไม่ใช่สัตว์พื้นเมืองของอเมริกาเหนือ พวกมันมีอยู่ในหลายๆ วัฒนธรรม ดังนั้นครั้งแรกที่ฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับสัตว์วิญญาณคือจากพ่อชาวเซอร์เบียของฉัน ดังนั้นสำหรับฉัน มันสัมพันธ์กับนิทานพื้นบ้านของชาวสลาฟเสมอ และไม่เกี่ยวข้องกับอเมริกาเหนือที่ฉันอาศัยอยู่ ใช่ไหม จากแคนาดา เขาไม่เคยพบใครแบบนั้นเลย ดังนั้น แต่ฉันก็จะดูสิ่งนี้ ดูว่าการจัดรูปแบบจะเป็นอย่างไร และฉันทำได้ดีมาก หลังจากที่เขาเสียชีวิต เพื่อนเก่าแก่ที่สุดของเขาบอกฉันว่า เพราะมันเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำแบบนี้ ฯลฯ และฉันต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาหลายปี ซึ่งฉันจะพูดถึงอีกครั้งในไม่ช้า แต่พวกเขาบอกฉันว่าฉันได้ของขวัญจากพ่อ และความจริงที่ว่าเขาสอนให้ฉันอ่านถ้วยกาแฟตุรกีเมื่อแม่ไม่ทันสังเกต เป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะเห็นได้ชัดว่าเมื่อพ่อแม่ของฉันเพิ่งแต่งงานกันใหม่ พ่อของฉันจะอ่านถ้วยกาแฟของคนอื่นในงานเลี้ยงค็อกเทลของพวกเขา และวันหนึ่ง เขาเข้าสู่ภวังค์และเริ่มเล่าเรื่องนี้เกี่ยวกับคนเหล่านี้ที่กำลังมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับคนอื่นที่อยู่ในงานเลี้ยงที่บ้านพ่อแม่ของฉัน งานเลี้ยงที่บ้านพ่อแม่ของฉัน แล้วเขาก็กลับมา ฉันจำไม่ได้ เขาพูดอะไรสักอย่าง และแม่ของฉันขู่ว่าจะหย่ากับเขาถ้าเขาทำแบบนั้นอีก ดังนั้น เห็นได้ชัดว่า ใช่แล้ว ดังนั้น มันก็เหมือนกับว่า คุณจะไม่ทำแบบนี้ คุณทำแบบนั้นมาตลอด มันเพื่อโบตันใช่ไหม?

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 14:57
และนอกจากนั้นแล้ว ยังรวมถึงสิ่งนั้นด้วย ในช่วงเวลานั้นด้วย ตอนที่คุณยังเด็ก เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่มีใครพูดถึง ใช่แล้ว คุณไม่พูดเรื่องนี้ต่อสาธารณะ คุณไม่ชอบที่จะทำธุรกิจจากเรื่องนี้อย่างแน่นอน มันบ้าไปแล้ว

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 15:10
โอ้พระเจ้า ไม่ ไม่ ฉันจะย้ายไปที่นั่น ไม่ ฉันหมายถึง และอีกอย่าง ขอพระเจ้าห้าม ฉันหมายถึง ฉันไปโรงเรียนสตรีเอกชน พ่อแม่ของฉันทำงานหนักเพื่อให้เราได้รับสิทธิพิเศษ หรือได้รับการสนับสนุน แม้ว่าเราจะเป็น ฉันก็ถูกเตือนว่าฉันไม่ได้เป็นคนแคนาดาจริงๆ เพราะพ่อแม่ของฉันเป็นผู้อพยพ แต่พวกเขาจากไป พวกเขาได้รับตำแหน่ง ดังนั้น เราจึงเข้าเรียนได้ เพราะมันเป็นตำแหน่ง แต่คุณรู้ไหม ตอนเข้าเรียนคณะนิติศาสตร์ พวกเขากลัว ฉันคิดว่าพวกเขากลัว และก็ถูกต้องแล้ว แต่ฉันแค่อยากอยู่ในวงการดนตรี ฉันจึงหนีออกจากบ้านพร้อมกับกีตาร์ สำหรับฉัน และมันก็น่าสนใจตั้งแต่นั้นมา แน่นอน คุณรู้ไหม ฉันมีอาชีพนักดนตรี แต่ฉันก็ตระหนักว่าฉันได้รับข้อมูลเดียวกันจากที่ฉันแต่งเพลง จากที่ฉันได้รับข้อมูลจากสัญชาตญาณ ดังนั้น ทุกอย่างมาจากช่องทางเดียวกัน เสียง ฮาร์โมนิก สิ่งต่างๆ เช่นนั้น สามารถทำให้ฉันมีสติได้ แต่ฉันเคยมีประสบการณ์ NDA หรือ NDE หรืออะไรทำนองนั้นมาก่อน ฉันจะไม่ลงรายละเอียดในเรื่องนี้ แต่ฉันจะพูดแค่ว่า เมื่อฉันอายุ 19 ปี ฉันก็เคยประสบเหตุการณ์รุนแรงครั้งใหญ่ และเมื่อมองย้อนกลับไป ฉันรู้สึกว่าตัวเองก็เป็นเหยื่อของเหตุการณ์นี้ แต่ฉันต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะรู้ตัวว่าฉันไม่ได้ตกเป็นเหยื่อ แต่ฉันถูกกระทำ แต่ฉันออกจากร่างกายระหว่างประสบการณ์นั้น และไปที่มุมขวาบน มุมขวาบนของฉัน และนั่นคือที่ที่ฉันอยู่ ฉันสามารถก้าวออกจากตัวเองได้ เหมือนกับว่ามีคนบอกว่าฉันมีอาการทางจิตขณะที่มันเกิดขึ้น แต่ตอนนี้ หลังจากนั้น ทุกอย่างก็สงบลง และฉันเริ่มทำสิ่งนี้เพื่อหาเลี้ยงชีพ ซึ่งก็ผ่านมาไม่กี่ปีแล้ว ตอนนี้ฉันกลายเป็นหมี เหมือนกับว่านั่นคือที่ที่ฉันไปหาข้อมูล ฉันแค่เดินจากโคเล็ตต์ ฉันไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของตัวเองอีกต่อไป และฉันอยู่ที่นั่น การเริ่มต้นอันเลวร้ายนั้นทำให้ฉันต้องผ่านมันไป การสูญเสียความสามารถในการปฏิเสธ ฯลฯ ทำให้ฉันได้ของขวัญในภายหลัง และในระหว่างนั้น ฉันก็กลายเป็นคนติดเหล้าและติดยา ดังนั้นสำหรับฉัน การหลีกหนีจากความเป็นจริงทั้งหมดนั้น ซึ่งจริงๆ แล้วก็น่าสนใจพอสมควรเช่นกัน เมื่อฉันมีประสบการณ์ทั้งหมดกับยาสมุนไพร ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่ได้ผลสำหรับฉันในช่วงเวลานั้น ช่วยให้ฉันรู้สึกดีขึ้น แต่ฉันแค่พยายามทำร้ายตัวเองจริงๆ ใช่ไหม? และฉันก็เลิกยาและเลิกเหล้าเมื่อฉันอายุ 27 ปี และนั่นคือจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง ตอนนั้นฉันเลิกทุกอย่างและอุทิศตัวเองให้กับเส้นทางจิตวิญญาณอย่างสมบูรณ์ เหมือนกับว่าฉันยอมแพ้ เหมือนกับว่าฉันควรจะตายอย่างจริงจัง คุณรู้ไหม นั่นคือช่วงเวลาที่โคเคนยังไม่เสพติดอย่างเห็นได้ชัดในยุค 80 ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 17:58
ไม่หรอก มันเหมือนไทลินอล มันเหมือนไทลินอล

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 18:01
โอ้ ใช่ ทุกคนทำแบบนั้น และคนส่วนใหญ่ก็ตาย จริงๆ แล้ว เพื่อนของฉันส่วนใหญ่ หรือคนที่ฉันคบหาด้วย ก็มีบ้างเล็กน้อย แต่มีคนตายไปหลายคนแล้ว แต่ยังไงก็ตาม ฉันผ่านมันมาได้ และเมื่อฉันยอมจำนนและยอมจำนนต่อชีวิตทางจิตวิญญาณ นั่นคือตอนที่มันน่าสนใจ นั่นคือตอนที่ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการเลิกเหล้าได้สนิท ฉันเลิกเหล้ามา 39 ปีแล้ว แต่การดาวน์โหลดทางจิตวิญญาณเกิดขึ้นเมื่อฉันยอมจำนนพร้อมกับคำเตือนว่า โปรดทำให้ฉันเป็นนักร้องนักแต่งเพลงที่ประสบความสำเร็จ แล้วฉันก็คิดว่า แต่ฉันพลาดที่จะทำสิ่งนี้เป็นงานพาร์ทไทม์ สิ่งที่ฉันทำได้ เพราะมันเหมือนกับว่า ฉันชอบผู้คน และฉันไม่เคยโฆษณาหาใครเลย บอกเพื่อนของพวกเขาว่าฉันสามารถอ่านหนังสือได้ ฉันสามารถอ่านหนังสือได้ ฉันสามารถอ่านหนังสือได้ ฉันสามารถอ่านหนังสือได้ ดังนั้นทำไมจะไม่มาล่ะ และฉันยังทำงานทางจิตวิทยาและจิตวิญญาณที่ลึกซึ้งมากมาย นั่นคือการแปล แต่ข้อมูลนั้นไม่ได้มาจากประสบการณ์ชีวิตของฉัน ข้อมูลนั้นมาจากอีกแหล่งหนึ่ง ซึ่งเป็นแหล่งเก็บความรู้ที่สะอาดซึ่งมอบให้ฉันเมื่อฉันพร้อม และมันน่าสนใจมาก

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 19:19
ฉันก็รู้สึกสนใจเหมือนกันเพราะว่าฉันเคยทำงานในวงการเพลงตั้งแต่ยังเด็ก เราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้ก่อนที่ฉันจะเข้าสู่วงการภาพยนตร์ และเรื่องนี้ก็สะท้อนสิ่งที่ฉันได้เห็นและสิ่งที่ฉันเคยผ่านมา เรื่องราวของคุณไม่ได้มีความพิเศษในแง่นั้น เพราะมีสุนัข ความเครียด ชื่อเสียง ความต้องการที่จะไล่ตามความฝัน และสิ่งที่คุณจะทำเพื่อให้ได้มาซึ่งความฝันนั้น และฉันต้องถามคุณว่าคุณใช้พลังจิตเมื่อเซ็นสัญญากับค่ายเพลงครั้งแรกหรือเปล่า

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 19:54
ไม่หรอก แต่ฉันจะบอกว่า ใช่ ไม่ แต่คุณพูดแบบนั้นก็น่าสนใจนะ เพราะเรื่องราวทางดนตรีของฉันน่าสนใจมาก เพราะฉันคิดว่าฉันไม่ได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงจนกระทั่งอายุ 40 และฉันดูเด็กมาก ใช่แล้ว และพวกเขาคิดว่าฉันอายุแค่ 20 ต้นๆ ใช่แล้ว ใช่แล้ว ฉันคือ EMI Music Canada เซ็นสัญญากับฉันในระดับโลก และฉันก็กลายเป็นที่รักของอดีตประธานาธิบดีที่เสียชีวิตไปแล้ว และฉันรักเขามากจริงๆ และมันเกิดขึ้นเมื่อฉันพร้อมที่จะเปรียบเทียบเส้นทางทั้งสองเส้นทาง ตอนนี้ฉันเปิดคลาสที่ชื่อว่า Spirit of Your Business และตอนนี้ ฉันใช้ข้อมูลที่ได้สัมผัสมาเพื่อบอกว่า ฟังนะ เมื่อคุณกำลังเดินไปตามเส้นทางหนึ่งที่คุณต้องพยายามอย่างหนัก คุณดิ้นรน และคุณกำลังก้าวไปข้างหน้า และคุณกำลังต่อต้านบางสิ่งบางอย่างภายใน ไปสู่แนวทางที่คุณไม่มีแผนที่จริงๆ คุณก็แค่ทำตามสิ่งที่คุณถูกเรียกร้องให้ทำในแต่ละวัน มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างการไล่ตามกับการรับ ฉันจึงสามารถใช้ประสบการณ์นั้นได้ และฉันได้รับทุกสิ่งที่ฉันต้องการ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันต้องการ แม้กระทั่งค่ายเพลงที่เซ็นสัญญากับฉัน แต่ในตอนที่ฉันมีอัลบั้มแรก อัลบั้มที่สอง ฉันมีอัลบั้มสองอัลบั้ม ฉันรู้ว่ามันจะกินฉันจนตาย และฉันอาจจะทำไม่ได้ ฉันไม่รู้ว่าฉันจะเลิกเหล้าได้ไหม พูดตามตรง ฉันไม่รู้ และฉันไม่ได้เกิดมาเพื่อประสบความสำเร็จในเรื่องนี้จริงๆ มันสอนให้ฉันรู้ว่าฉันมีพรสวรรค์ แต่ฉันไม่ได้แสวงหาสิ่งใดในโลกนี้ ฉันคิดว่า ฉันไม่ได้ทำแบบนั้นจริงๆ ฉันเป็นนักร้องจริงๆ อย่ากลับมาอีกในปีหน้า นั่นคือหกปีแรกที่ฉันทำอาชีพนี้ เพราะฉันจะไม่เรียกมันแบบนั้นด้วยซ้ำ ฉันจะไม่เรียกตัวเองว่าร่างทรงด้วยซ้ำ ฉันเกลียดคำๆ นี้ มันทำให้ฉันนึกถึงมิสคลีโอ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะล่วงเกินคุณ ขอโทษนะมิสลีโอ แต่คุณรู้ไหมว่าฉันหมายถึงอะไร ฉันรู้สึกว่า ไม่ ฉันจะไม่ทำแบบนั้น คริสตัลและต่างหูขนาดใหญ่ ตอนนี้ฉันใส่ต่างหูใหญ่และมีคริสตัลอยู่ทั่วบ้าน

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 21:48
เธอไปได้แล้ว เธอไปลึกเข้าไปในความวู่ เธอไปลึกเข้าไปในความวู่

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 21:52
ถึงแม้ว่า ถึงแม้ว่า ใช่ แต่ฉันก็รู้ว่า ไม่ ฉันหมายถึง ฉันปล่อยวางไม่ได้ และนั่นคือบทพิสูจน์ถึงความผูกพัน ต่อพลังของผีหิวโหย ต่อพลังในการไล่ตามบางสิ่งบางอย่าง ลุยเลย

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 22:07
อืม เรื่องนี้คือสิ่งที่ฉันพบว่าน่าสนใจมาก เมื่อเทียบกับเรื่องราวของคุณหลายๆ เรื่องแล้ว มันก็สะท้อนเรื่องราวของฉันด้วย นั่นแหละคือความฝันที่ตามหามาเหรอ? ใช่ ฉันต้องการมัน ฉันอยากเป็นผู้กำกับที่มีชื่อเสียงระดับโลก นั่นคือเป้าหมายในชีวิตของฉัน ฉันรู้ว่าฉันมีพรสวรรค์ ฉันรู้ว่าฉันมีประสบการณ์ และได้อยู่ในห้องกับดาราดัง โปรดิวเซอร์ชื่อดัง สตูดิโอใหญ่ๆ หลายครั้งตลอดเวลา แต่ฉันก็มีบางอย่างเสมอ หยุดเสมอ มีบางอย่างเสมอ มีอยู่เสมอ มีบางอย่างเสมอแบบว่า โอ้ ไม่ ใช่ โอ้ ไม่ โอ้ ไม่ แต่สิ่งที่ทำให้ฉันหงุดหงิดเสมอ และฉันแน่ใจว่าคุณก็รู้สึกเหมือนกัน คือฉันเก่งพอที่จะเข้าไปในห้องนั้นได้ ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าไปในห้องนั้นได้ ไม่เพียงครั้งเดียว แต่หลายครั้ง และมีบางอย่างขวางกั้นอยู่ และฉันไม่เข้าใจว่าทำไม ดังนั้นความต้องการที่จะไล่ตามความฝันจึงเป็นปัจจัยสำคัญในชีวิตของฉัน จนกระทั่งฉันละทิ้งความฝันนั้นไป ใช่แล้ว และทันทีที่ฉันละทิ้งไป สิ่งต่างๆ ก็ปรากฏขึ้นในแบบที่ฉันมีแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งของตัวเอง ตอนนี้ฉันเป็นคนตรงไปตรงมา ฉันจะกำกับรายการของตัวเอง ซีรีส์ของตัวเอง ภาพยนตร์ของตัวเองในแบบที่ฉันต้องการจะทำ โดยไม่มีใครบอกว่าต้องทำอะไร และนั่นก็กลายเป็นทางเลือกเมื่อฉันละทิ้งแนวคิดเดิมๆ ที่ฉันมีเกี่ยวกับสิ่งที่ฉันคิดว่าฉันเป็นคนแบบว่า ถ้าคุณเป็นผู้กำกับที่มีชื่อเสียง คุณต้องเดินตามเส้นทางของสตีเวน สปีลเบิร์ก จอร์จ ลูคัส สแตนลีย์ คูบริก หรือใครก็ตามในบรรดาปรมาจารย์เหล่านี้ แต่พวกเขาทั้งหมดต่างก็เดินตามเส้นทางของตัวเอง มันช่างน่าสนใจ มันเป็นบทเรียน ฉันหวังว่าคนที่กำลังฟังอยู่จะรู้สึกเหมือนกับตอนที่คุณไล่ตามความฝัน การได้รับแรงบันดาลใจจากคนอื่นเป็นเรื่องดี แต่เมื่อคุณเข้าใจสิ่งนี้แล้ว คุณต้องปล่อยวางและปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ทุกอย่างจะออกมาดีกว่าที่คุณวางแผนไว้มาก เพราะไม่มีอะไรเป็นไปตามที่คุณต้องการในสมองเลย เพราะนั่นเป็นอัตตา การตั้งโปรแกรม ข้อจำกัด และสิ่งต่างๆ มากมาย แต่เมื่อคุณปล่อยวาง 100% รายการนี้เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของคุณว่าอาชีพของคุณคือสื่อพลังจิต และนักเขียนก็เป็นเช่นนั้น คุณปล่อยวางความคิดที่ติดตัวมา และปล่อยให้จักรวาลชี้นำคุณ ซึ่งมันน่ากลัว มันน่าสะพรึงกลัว

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 24:36
ฉันคิดว่าคุณรู้ว่ามันตลกมากด้วย ทุกสิ่งที่คุณพูดคือหน้าที่ของสิ่งที่ฉันสอนตอนนี้ในการเปลี่ยนแปลงส่วนบุคคลคือการปล่อยวางและยอมจำนนต่อสิ่งที่ไม่รู้จักเป็น 1,000% เพราะเราแต่ละคนมีเส้นทางเฉพาะตัวที่ต้องเดินตาม และรูปแบบของเส้นทางนั้นไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะกำหนด คุณรู้ไหม เราอาจมองเห็นแวบหนึ่ง แต่ไม่เคย ไม่เคยเป็นแบบนั้นเลย ฉันสอน... ตอนนี้เกี่ยวกับกระดานวิสัยทัศน์ ซึ่งตอนนี้เราสร้างสิ่งที่เรียกว่าโซนของความสอดคล้องกัน เพราะฉันอยากจะบอกว่าสิ่งที่ขาดหายไปในสิ่งเหล่านี้ วิญญาณที่ขาดหายไปในสิ่งเหล่านี้ จักรวาลก็เหมือนกับกิจกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นนอกจิตสำนึกของเรา นอกเหนือความเข้าใจของเรา เป็นที่ที่การกระทำทั้งหมดเกิดขึ้น และไม่มีใครเคยใส่สิ่งนั้นไว้ที่นั่นเลย ใช่ไหม? ดังนั้น เมื่อเห็นเช่นนั้น ความสอดคล้องกันนั้น และอีกครั้ง ฉันจะใช้คำว่า พระเจ้า จักรวาล มันไม่สำคัญจริงๆ ฉันมีพลังจริงๆ เหมือนกับที่ฉันทำ ฉันไม่เชื่อว่านี่คือเจเนอเรชั่นของมนุษย์ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับฉัน มันจะถูกจำกัด ถ้าเกิดขึ้นผ่านฉัน มันอาจเป็นอะไรที่น่าสนใจ เช่น ฉันจะผ่านฉันไปเลย ใช่ไหม ตรงกันข้าม มันเป็นของฉัน ฉันเห็นมัน และฉันคิดว่าเรื่องราวของคุณ คุณรู้ไหม เมื่อคุณไล่ตามและไล่ตาม ฉันก็เป็นแบบเดียวกัน เข้าไปในห้องแล้วแบบ รอสักครู่ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ แบบว่า โอ้

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 25:57
โอ้ใช่ ขึ้นๆ ลงๆ ขึ้นๆ ลงๆ และคุณภาวนาให้ทุกอย่างดีขึ้น แต่แล้วคุณก็ล้มลง และมันยากกว่าที่จะกลับมาอีกครั้งสำหรับคุณ ทั้งทางจิตใจและจิตวิญญาณ ที่จะกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง เหมือนกับว่า โอเค ฉันควรจะกลับไปทางนี้อีกครั้งไหม กลับไปทางนี้อีกครั้งไหม และฉันไม่รู้เกี่ยวกับคุณ ฉันพยายามเลิกไปประมาณสิบกว่าครั้งแล้ว เหมือนกับว่า ฉันหมดทางแล้ว ฉันทำอย่างนี้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ฉันไม่ได้ มันไร้สาระมาก ฉันไม่ใช่ ฉันไม่ใช่กระสอบทรายของจักรวาล ฉันหมดทางแล้ว แล้วห้านาทีต่อมา จิตใจ จิตใจ จะบอกคุณว่า โอเค คุณจะทำอย่างไรต่อไป และคุณก็แบบว่า ไม่มีอะไรอย่างอื่นที่ฉันทำได้อีกแล้ว ฉันทำได้ ฉันหางานไม่ได้ ฉันเป็นคนขายของตามงานรื่นเริง ฉันอาศัยอยู่ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์เหมือนงานรื่นเริง

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 26:47
รักคุณนะที่เรียกตัวเองว่าคนขายของตามตลาดนัด นั่นของคุณ

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 26:51
คุณหนีออกไปจริงๆ เราหนีออกไปกับงานคาร์นิวัล เราหนีออกไปกับคณะละครสัตว์ คนที่อยู่นอกกลุ่มศิลปะสร้างสรรค์เหล่านี้ไม่เข้าใจจริงๆ แต่โดยพื้นฐานแล้วนั่นคือสิ่งที่คุณกำลังทำ เมื่อคุณไปที่กองถ่ายและพวกเขาพูดว่าจะระเบิดรถในวันนั้นเพราะมีฉากไล่ล่าของตำรวจหรืออะไรสักอย่าง และคุณกำลังทำอยู่ ซึ่งมันไม่จริง มันบ้ามาก เหมือนกับว่าคุณกำลังกางเต็นท์และแสดง มันบ้ามาก มันไม่ใช่งานจริงในแง่ที่ทุกคนต้องทำงานจริง ดังนั้น ใช่แล้ว ฉันเรียกตัวเองว่าคนขายของตามงานรื่นเริง ฉันเรียกตัวเองว่าคนขายของตามงานรื่นเริงตลอดเวลา เพราะเราทุกคนเป็นศิลปิน

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 27:32
ฉันชอบแบบนั้นเพราะว่าฉันไม่ซีเรียสกับตัวเองมากเกินไป เพราะงานแรกของฉันคือไปงานคาร์นิวัล คุณรู้ไหม งานแรกของฉันคือขายฮอตดอกและแซนด์วิชคอร์นบีฟ และฉันก็จูบกันตอนเล่นเกมวันเกิดที่งานคาร์นิวัล คุณรู้ไหมว่าเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งของฉันเป็นคนเปิดซิป คุณรู้ไหม ฉันหมายถึงว่างานคาร์นิวัลเป็นเรื่องธรรมดา และมันตลกด้วย เพราะจริงๆ แล้ว ป้าของแม่ฉันเคยหนีไปกับคณะละครสัตว์ในเยอรมนี หนีไปกับคณะละครสัตว์จริงๆ นะ หนีไปกับคณะละครสัตว์รัสเซีย เธอหนีไปกับคณะละครสัตว์ แต่ใช่แล้ว

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 28:10
อยู่ในสายเลือดของคุณอย่างแน่นอน

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 28:12
สิ่งหนึ่งที่ฉันจะพูดก็คือ คุณรู้ไหม ฉันจะมองตัวเองแบบนี้ เพราะฉันคิดว่ามันมีคุณค่าทางความบันเทิง แต่สิ่งที่ทำก็มีความลึกซึ้งมากเช่นกัน คุณรู้ไหม เช่น มีข้อมูล แล้วในงานคาร์นิวัลมีความลึกซึ้งหรือไม่? บางครั้ง หากคุณมองในแง่ของการเปรียบเปรยของมนุษยชาติที่ถูกเล่นออกมา เช่น คนโง่ในศาล จะพูดถึงสิ่งที่พูดไม่ได้ เพราะว่า เฮ้ มันก็แค่สนุก ดังนั้น คุณรู้ไหมว่า เฮ้ นี่คืองานคาร์นิวัล ดังนั้น ลุยเลย

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 28:44
แต่ฉันอยากจะบอกว่าคุณไม่ควรประเมินค่าศิลปะต่ำเกินไปหรือลดคุณค่าของศิลปะ เพราะศิลปะเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์มีสติสัมปชัญญะโดยไม่มีเรื่องราว ไม่มีเรื่องราวในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ หนังสือ ดนตรี หรืออะไรก็ตาม การเล่าเรื่องเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราเข้าใจถึงการจำลองสถานการณ์ที่เราอยู่ได้ เพราะเราทุกคนต่างก็พยายามหาคำตอบ เราต่างก็พยายามหาทางผ่านชีวิตไปให้ได้ ซึ่งมันไม่สมเหตุสมผลเลย ถ้าคุณเริ่มคิดถึงสิ่งที่เราผ่านมาในฐานะมนุษย์ เราก็จะคายมันออกมา เราถูกคายออกมาจากแม่ของเราตั้งแต่เราเกิด ใช่ไหม ในแบบที่กระทบกระเทือนจิตใจมาก ถูกโยนทิ้งไปในโลกที่หนาวเย็น เว้นแต่ว่าคุณคลอดลูกที่บ้านในน้ำอุ่นหรืออะไรทำนองนั้น ใช่แล้ว แสงสว่างจ้านั้นเจ็บปวดมาก แล้วคุณก็ถูกโยนไปเจอกับคนที่คุณไม่เคยเจอมาก่อน แล้วทันใดนั้น คุณก็เริ่มเรียนรู้จากทุกสิ่งที่พวกเขาทำ ดังนั้น ถ้าคุณเกิดเป็นชาวอาเมริกันเชื้อสายอาเมริกัน คุณก็เป็นชาวอาเมริกันเชื้อสายอาเมริกันเชื้อสายยิว คุณเกิดเป็นชาวยิว คุณเกิดเป็นชนเผ่าแอฟริกัน คุณก็จะต้องไปล่าสัตว์ในไม่ช้านี้ คุณรู้ไหมว่ามีชนเผ่าต่างๆ มากมายที่คุณจะต้องพบเจอ และคุณก็แค่พยายามค้นหาคำตอบไปเรื่อยๆ ในชีวิต เรื่องราวต่างๆ ช่วยให้เรายังคงมีสติสัมปชัญญะ และช่วยให้เราสามารถประมวลผลความรู้สึกบ้าคลั่งนี้ได้

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 30:17
คุณรู้ไหม ฉันพูดได้เต็มปากว่าเราคือเรื่องราวที่เคลื่อนไหว เราคือเรื่องราวที่เรามีวิวัฒนาการอยู่เสมอ และเรื่องราวของเราคือสิ่งที่ทำให้เราเป็นมนุษย์ ใช่แล้ว เรื่องราวของเราทำให้เรามีชีวิต ใช่แล้ว เรื่องราวที่เล่าถึงตัวเรา เหมือนกับไพ่ออราเคิลทุกสำรับที่ฉันสร้างขึ้น เล่าเรื่องราวของเรื่องราวสากลของสิ่งที่เราสามารถเป็น ความรู้สึก การสัมผัส การกระทำ คุณรู้ไหม พจนานุกรมของชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปตามวิวัฒนาการของเรา และตอนนี้ เราอยู่ในช่วงวิวัฒนาการที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และเรื่องราวของเราจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรุนแรงในอีกสองปีข้างหน้า มันจะเป็นเช่นนั้น แต่ถ้าไม่มีเรื่องราวและไม่มีอะไรน่าสนใจ คุณนำสิ่งนั้นมาโดยไม่มีศิลปะ เพราะฉันสนใจแต่ศิลปะ ฉันวาดภาพ ฉันหมายถึง ฉันถ่ายทอดภาพวาดสำหรับสำรับไพ่ชุดล่าสุดของฉัน หนังสือเล่มต่อไปของฉันคือศิลปะประสาท เกี่ยวกับว่าศิลปะมีความสำคัญอย่างไรในการสร้างความเป็นจริงร่วมกัน เราไม่สามารถใช้ชีวิตได้หากไม่มีสิ่งนั้น แม้แต่บรรพบุรุษยุคแรกๆ ของเราก็รู้เช่นกันว่า เช่นเดียวกับมนุษย์ยุคดึกดำบรรพ์ พวกเขารู้ดีว่าศิลปะ เสียง ดนตรี และสิ่งอื่นๆ ทั้งหมดนั้น ฉันคิดว่าฉันหลงใหลในสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด เพราะมันทำให้ฉันมีชีวิตอยู่ ใช่แล้ว ฉันตลกดี ฉันได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงหลังจากที่สร้าง Journey Through the Chakras ซึ่งในตอนนั้นไม่ใช่การแอบอ้างสิทธิ์ แต่เป็นเพราะตอนนี้คุณต้องระมัดระวังมากขึ้น แต่ในตอนนั้น ที่นี่โอเคไหม โอเค นี่คือพื้นที่ปลอดภัย

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 31:46
เราสามารถพูดคำว่าจักระได้ ไม่เป็นไร โปรดเถอะ ฉันไม่สนใจ ฉันเป็นคนรุ่น Gen X ฉันไม่สนใจ โอเค ฉันสัญญากับคุณว่าโยคะ โยคานันดา เมื่อเขา โย ฟังนะ โยคานันดาได้นำโยคะและการทำสมาธิมาสู่โลกตะวันตก คุณลองนึกดูสิว่าตอนนี้เขามองย้อนกลับไปแล้วพูดว่า โยคะคืออะไร โยคะแพะ เกิดอะไรขึ้น

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 32:12
เลยนึกถึงฟาร์มแพะแถวๆ นี้ที่มีโยคะแพะ

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 32:17
แต่เมื่อใด? แต่เมื่อโยคะถูกนำเข้ามาทางตะวันตก โยคะแพะไม่ใช่สิ่งที่มีจริง และไม่ควรมีขึ้นในเชิงจิตวิญญาณด้วยซ้ำ มันน่ารัก มันน่ารัก ดังนั้นเมื่อพูดทั้งหมดนี้แล้ว เราก็อยู่ในพื้นที่ปลอดภัย คุณสามารถพูดคำว่าจักระได้

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 32:35
ใช่แล้ว ฉันจมอยู่กับการเรียนรู้กับ Annadea Judith เธอออกหนังสือของเธอ และ Carolyn Mace ก็มีกายวิภาคและจิตวิญญาณ ทุกอย่างช่างน่าตกใจมาก ตอนนั้นฉันเลิกเหล้าได้สองสามปีและหลายปีทีเดียว แต่ฉันก็คิดว่า คุณรู้ไหม อะไรนะ เลิกร้องเพลง แต่งเพลงซะ ฉันอยากทำ อยากทำบางอย่าง นั่นคือสิ่งที่ฉันเป็น ซึ่งก็คือจิตวิญญาณของฉัน ฯลฯ ฉันจึงได้ติดต่อกับใครบางคนชื่อ Mars Lazar ซึ่งเป็นศิลปินแนว New Age ที่ขายแผ่นเสียงได้ระดับแพลตตินัม และมันก็เกิดขึ้น บึ้ม บึ้ม บึ้ม เร็วมาก และเราสร้าง spoken word ที่ฉันคิดว่าเป็นหนึ่งในสิ่งแรกๆ ที่เคยสร้างขึ้นมา ในรูปแบบ 42 แทร็ก คุณรู้ไหม สถานการณ์ที่ฉัน โอ้ ใช่แล้ว เราเป็นเหมือน แบบเต็มๆ ของทุกอย่างในนั้น จากนั้นเราก็ทำเพลงสามเพลงที่สัมพันธ์กับจักระ เพราะพวกเขาขึ้นถึงเจ็ดโน้ตและสเกล C ยังไงก็ตาม ปรากฏว่าลูกค้าคนหนึ่งของฉันกลายเป็นทนายความ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจที่ EMI จากนั้นหัวหน้าของ Virgin Records ก็เป็นแฟนของซีดีนี้ เรา เรา ฉัน เราเพิ่งปล่อยมันออกมา ฉันกับแฟนสาว และมันขึ้นอันดับหนึ่งในหนึ่งนาที และมันก็น่าตื่นเต้นมาก จากนั้นพวกเขาก็พูดว่า มาทำอีกเพลงกันเถอะ ฉันก็เลยแบบว่า โอ้ กำลังจะมาแล้ว โอ้ รูปแบบมันแตกต่างออกไป โอเค มันอาจจะเป็นอันนี้ก็ได้ ฉันเลยบินไปที่แอลเอเพื่อทำงานกับ Eric Ross ซึ่งทำอัลบั้มของ Tori Amos และเขาบอกว่า ไม่ เราจะไม่ร้องเพลงสวด เราจะแต่งเพลงกัน แล้วฉันก็เลยกลับไปพร้อมกับเพลงเหล่านี้ ฉันบอกว่า ฟังนะ ฉันจะคืนเงินให้คุณ แต่เธอเก่งเรื่องนี้มาก ดังนั้นคุณจึงสามารถขอเงินคืนได้ แต่ฉันอยากทำจริงๆ ดังนั้น เขาจึงส่งคาเมรอน ส่งคาเมรอน ส่งมันไปทั่ว บอกว่า ฉันจะไม่บอกใครว่าเพลงของใครโอเค แค่จะส่งมันไปทั่วเพื่อดูว่าคนอื่นคิดยังไง ถ้าพวกเขาชอบ คุณก็ทำอัลบั้มได้ และนั่นคือเรื่องราวทั้งหมด แต่ถึงแม้จะได้สิ่งที่ฉันรู้ว่าจักรวาลบอกว่าคุณต้องการสิ่งนี้มากขนาดนี้ ตอนนี้เรารู้แล้วว่าคุณเข้มแข็งพอที่จะมองตัวเองด้วยสายตาที่แท้จริง ดูสิ่งนี้สิ นี่คือชีวิตสำหรับคุณหรือเปล่า และฉันก็แบบว่า ไม่

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 34:51
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ ฉันอยากให้คนที่กำลังฟังเข้าใจเรื่องนี้ คนที่รู้สึกหงุดหงิดกับการที่ชีวิตไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวัง ใช่แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อสิ่งนั้นไม่ได้เกิดขึ้นกับคุณ อย่างน้อยนี่ก็เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของฉันเอง ฉันพูดแทนทุกคนไม่ได้ แต่เมื่อสิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปตามที่คุณต้องการหรือแม้แต่ไม่เป็นไปตามที่คุณต้องการ นั่นอาจเป็นเพราะจักรวาลกำลังปกป้องคุณอยู่เพราะคุณยังไม่พร้อม

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 35:17
ใช่แล้ว โอ้พระเจ้า ใช่แล้ว ตอนนี้ฉันมองย้อนกลับไปแล้ว ขอบคุณ พระเจ้า ฉันคงจะลาก ฉันคงจะเป็น ฉันคงไม่มีชีวิตอยู่

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 35:24
ถ้าฉันทำได้ ฉันเกือบจะสร้างหนังมูลค่า 20 ล้านเหรียญให้กับกลุ่มมาเฟีย นั่นเป็นเรื่องราวทั้งหมด ฉันเขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องทั้งหมด ถ้าเรื่องนั้นเกิดขึ้นกับฉัน ถ้าเรื่องนั้นเกิดขึ้นกับฉันตอนอายุ 26 ตอนที่ฉันทำ ฉันคงระเบิดตัวเองตายแน่ เพราะถ้าฉันได้ร่วมงานกับนักแสดงที่มีคุณภาพ คุณรู้ไหม ฉันร่วมงานกับดาราดังระดับโลกบางคนในโปรเจ็กต์นั้น มันคงเป็นโปรเจ็กต์ที่ยิ่งใหญ่มาก ฉันคงได้เป็นที่สนใจ ฉันไม่พร้อมสำหรับเรื่องนั้นเลย และฉันก็คงจะทำลายฉัน ใช่แล้ว และมันจะทำลายฉันไปเลย ฉันเลยไม่พร้อมสำหรับมัน ดังนั้น เมื่อฉันสังเกตสิ่งต่างๆ ตลอดชีวิต ฉันก็เริ่มรู้สึกว่า สิ่งต่างๆ เริ่มปรากฏขึ้นและเติบโตในระดับที่คุณพร้อมจะยอมรับได้ เหมือนกับการให้ใครสักคน นั่นคือเหตุผลที่ผู้ถูกรางวัลลอตเตอรี่มีช่วงเวลาที่ยากลำบาก และพวกเขาแพ้เพราะสูญเสียเงินหรือเสียชีวิต? ใช่แล้ว พวกเขามองว่าถ้าคุณทำงานตั้งแต่ 20 โมงเช้าถึง 20 โมงเย็นและได้ค่าจ้างขั้นต่ำ แล้วจู่ๆ ก็มีคนโยนเงิน XNUMX ล้านเหรียญมาให้คุณ คุณไม่มีทางเข้าใจได้เลยว่าจะจัดการกับพลังงานจำนวนนั้นที่เข้ามาในชีวิตของคุณอย่างไร ใช่แล้ว ฉันจะไม่ลงรายละเอียดมากนัก แต่ฉันทำสารคดีชุดหนึ่ง ซึ่งเป็นโฆษณาสำหรับลอตเตอรี่ในฟลอริดา ซึ่งฉันได้สัมภาษณ์ผู้ถูกรางวัลลอตเตอรี่ มันน่าสนใจมาก เพราะคุณจะเห็นได้ว่าผู้ถูกรางวัลบางคนจะระเบิดขึ้นในอีกประมาณหนึ่งปี คุณอาจเห็นอีกคนหนึ่งที่ถูกเพิกเฉย เขายังคงทำงานต่อไปเพราะเขาไม่อยากเสียเงินบำนาญ แต่เขามีเงิน XNUMX ล้านเหรียญในธนาคาร ไม่ได้เปลี่ยนแปลงบ้านของเขา ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย เขาพูดว่า โอ้ ใช่ เป็นครั้งคราว เมื่อภรรยาของฉันเดินผ่านร้านค้าและต้องการซื้อชุด ฉันก็ปล่อยให้เธอซื้อ นั่นเป็นอีกวิธีหนึ่งที่เขาต้องการ เขาเข้าใจว่าเขาเป็นผู้ชายที่อายุมากกว่า แต่เขาเข้าใจว่าเขาทำไม่ได้ เขาไม่เข้าใจ เขาแค่ไม่เข้าใจมัน ดังนั้นเขาจึงเก็บมันไป ดังนั้นจึงมีวิธีต่างๆ ในการจัดการกับมัน มันน่าสนใจมาก แต่นั่นคือเหตุผลที่ผู้คนเข้าใจเรื่องนี้ นั่นคือเหตุผลที่เราได้เห็นมันในอุตสาหกรรมบันเทิง ใช่ เด็กที่โด่งดังได้เร็วมาก พวกเขาได้

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 37:34
สำเร็จแล้ว ฉันเป็นหนึ่งในนั้นและฉันก็รู้สึกขอบคุณมาก และแน่นอนว่าเมื่อฉันบอกพวกเขาว่าฉันอายุเท่าไหร่ ฉันก็ได้ยินข่าวคราวนั้น ฉันจำได้ว่ามีข่าวคราวหนึ่งที่บอกว่า EMI Music เสี่ยงกับศิลปินที่เป็นผู้ใหญ่ ใช่ไหม? แล้วก็มีข่าวว่า โอ้ ใช่ เธออาจจะเป็นแม่ของบริทนีย์ สเปียร์สได้ใช่ไหม?

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 37:52
ศิลปินที่เป็นผู้ใหญ่ ว้าว นั่นเป็นคำที่หลอกลวงจริงๆ ฉันแค่ต้องการเรียกเธอ คุณแค่ต้องการเรียกเธอว่าคนแก่ แก่จริงๆ ใช่ไหม? แก่ก็คือแก่ และคุณไม่ได้แก่ขนาดนั้น ฉันอยากจะตายเพื่อมีอายุเท่ากับคุณเมื่อตอนนั้น

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 38:12
ใช่มั้ยล่ะ? แต่สิ่งที่เจ๋งก็คือ คุณรู้ไหมว่างานนั้น งานด้านจิตวิญญาณที่ฉันทำอยู่ และงานในฐานะผู้ใช้สัญชาตญาณ และฉันก็ใช้คำว่าสัญชาตญาณ มันง่ายกว่าเยอะเลย แต่ใช่ สื่อจิต แต่ฉันเรียกตัวเองว่าผู้มีสัญชาตญาณ แต่ว่ามันก็มา ฉันไม่เคยโฆษณา. ฉันไม่เคยโฆษณาเลย และฉันจองเต็มแล้ว หลังจากที่ฉันทำอย่างนี้มาเป็นเวลาหกปี ฉันก็มีลูกค้าใน 29 ประเทศที่โทรมาหาฉัน ไม่มีอินเตอร์เน็ต พวกเขาจะแจกเบอร์โทรศัพท์ของฉัน และในสนามบิน ในห้องน้ำ ที่โต๊ะอาหาร และที่อื่นๆ ฉันก็แจกเบอร์ให้คนนั้นคนนี้ แล้ววันหนึ่ง ฉันจำได้ว่ามีคนโทรมา และพวกเขาบอกว่าโทรมาจากร้านขายของชำ ฉันนึกว่าพวกเขาโทรมาจากร้านขายของชำข้างทาง คุณเข้าใจที่ฉันพูดมั้ย? แล้วฉันก็บอกว่า คุณอยากมาที่นี่แบบว่า ไม่ ไม่ คุณมาสิแล้วเราจะมอบกลีบกุหลาบให้คุณ แล้วฉันก็ถามว่า คุณว่ายังไง? แล้วฉันก็คิดว่า นิวเดลี มาจากไหนเหรอ? ขวา? แล้วฉันก็ทำการอ่านหนังสือนี้เพื่อชายคนนี้ แล้วฉันก็มาอยู่กับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่ไม่พูดภาษาอังกฤษเลย พวกเขาก็จะอัดเทปเอาไว้ แล้วฉันก็ไม่มีล่าม แล้วฉันก็เล่าให้พวกเขาฟังถึงสิ่งที่ฉันเห็น แล้วหญิงสาวคนนั้นก็จะโทรมาบอกว่า โอ้ ยังไงก็ตาม ฉันได้ฟังเทปและแปลให้พวกเขาฟังแล้ว ซึ่งมันน่าทึ่งมาก แล้วฉันก็รู้สึกว่า ฉันรู้สึกหวาดกลัวมาก แล้วฉันก็แบบ โอเค ชัดเจนว่าฉันเป็นแบบนี้ แล้วฉันก็จำได้ว่าร้องไห้เพราะฉันไม่อยากเป็นแบบนี้ ฉันคิดว่าฉันแปลกเกินไป คือฉันเคยคิดว่าถ้าฉันเคยคบกับผู้ชายมาก่อน พวกเขาก็จะรู้ทันทีว่าฉันทำมาหากินอะไร ฉันเลยไม่เชื่อเรื่องนั้น ฉันก็เลยรู้สึกว่า ฉันจะไม่นอนกับคุณ แล้วอีกคนหนึ่งก็พูดว่า โอ้ พ่อแม่ของฉันเป็นคริสเตียนออร์โธดอกซ์ ไม่ว่าอะไรก็ตาม และฉันไม่สามารถพาคุณกลับบ้านได้ แล้วฉันก็แบบว่า แล้วเราจะทำอะไรกันล่ะ? มันก็เหมือนเพราะว่ามันเป็นเรื่องแบบนี้ แล้วฉันก็รู้สึกว่าฉันมีบางอย่างที่ถูกใจ เหมือนว่าฉันด้อยค่าลงไปอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะฉันไม่เป็นที่ยอมรับ และในตอนนั้นมันเหมือนว่า มันเจ๋งจริงๆ ไม่เหมือนไม่มีใครในโลกของฉัน ไม่มีใครตื่นขึ้นมาแล้วพูดว่า ฉันสามารถตื่นขึ้นมาและเป็นสื่อวิญญาณได้ เป็นไอเดียงานเจ๋งๆ เลย เหมือนเราเป็นแบบขอบๆใช่มั้ย? นี่มันโอ้ ฉันรู้นะ และไม่ได้และไม่น่าเคารพเลย และฉันไม่ต้องการให้พ่อแม่ของฉันมีสิ่งนี้ต่อไปอีกในตอนนั้น เพราะพ่อแม่ของฉันได้เสียชีวิตไปแล้ว และฉันจำได้ว่าตอนที่แม่ฉันยังมีชีวิตอยู่ แม่ยังมีชีวิตอยู่ และตอนที่พ่อของฉันเสียชีวิต เพราะแม่และพ่อเสียชีวิตห่างกันสองปี ฉันคิดว่าเป็นเวลาหนึ่งปีแต่จริงๆ แล้วมันเป็นสองปี และหลังจากที่เขาเสียชีวิต เธอชอบไปหาหมอดู แต่ฉันไม่ได้รับอนุญาตให้เป็นหมอดู โอเค ไม่เป็นไร เธอชอบไปและทำอะไรก็ตาม แล้วอยู่มาวันหนึ่งมีหญิงสาวคนหนึ่งไปทำงานที่ร้านขายชุดแห่งหนึ่ง เพราะหลังจากที่พ่อแม่ของฉันสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไป เธอจึงต้องทำงาน แล้วหญิงสาวคนนี้ก็เข้ามาแล้วพูดว่า โอ้พระเจ้า ฉันได้รับคำอ่านที่น่าทึ่งที่สุดจากผู้หญิงคนนี้ และคุณจะต้องพูดคุยกับเธอ แล้วแม่ฉันเป็นใคร? ให้ชื่อฉันกับเธอ แล้วเธอก็เขียนมันออกมาเป็นแผ่นๆ ฉันจำไม่ได้ว่าจะเรียกชื่อเธอว่าอย่างไร มันแปลกนิดหน่อย. เธอเขียนชื่อโคเล็ตต์ แล้วเธอ และแล้วก็หมายเลขโทรศัพท์ของฉัน แล้วแม่ของฉันก็บอกว่า นั่นคือลูกสาวของฉัน ใช่ไหม? โอ้ใช่ไม่นะ แต่แม่ของฉันก็เจ๋งดีนะ เพราะว่าเธอเจ๋งกับเรื่องนี้ แล้วเธอก็เสียชีวิตในปีต่อมา แต่มันก็กินเวลานานมากเลยทีเดียว เพราะว่าตอนที่พ่อของฉันไปงานศพ พ่อของฉันเล่าให้คนอื่นฟังว่าฉันทำงานอยู่ในฝ่ายการตลาด พวกเขาถามว่า คุณกำลังทำอะไรอยู่? แล้วพวกเขาก็ไป เธออยู่ในฝ่ายการตลาด

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 41:37
แต่ประเด็นคือ ฉันไม่ได้ปกป้องพ่อแม่ของคุณ พวกเขาหวังดีกับคุณ แต่ฉันอยากจะทำแบบนั้น พวกเขาอยากปกป้องคุณ พวกเขาเป็นโรคซึมเศร้า พวกเขามีลูกในช่วงที่เป็นโรคซึมเศร้า พวกเขาแค่บอกว่า ฉันไม่อยากให้พวกเขาต้องดิ้นรน ฉันโอเคกับเรื่องหมอดู แต่ฉันไม่อยากให้ลูกสาวของฉันต้องเจอกับนรกแบบเดียวกับที่ฉันเคยเจอมา ฉันอยากให้เธอมีงานที่มั่นคง ฉันอยากให้คุณพยายามปกป้อง

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 42:04
ใช่ และแล้วมันก็ถึงยุคของพวกเขา พ่อของฉันเกิดในปี 1908 แม่ของฉันเกิดในปี 1927 ใช่ไหม? ดังนั้นพวกเขาก็มา พ่อของฉันผ่านสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและสอง และแม่ของฉัน คุณรู้ไหม และภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่นี่ในยุโรป ดังนั้นและพวกเขาต้องการให้ฉันมีโอกาสในชีวิตที่พวกเขาไม่มี พวกเขาต้องการ และเช่นเดียวกับคนส่วนใหญ่ และพวกเขาทำงานหนัก คุณรู้ไหม โดยเฉพาะพ่อของฉัน ดังนั้นมันจึงเป็นโศกนาฏกรรมเมื่อเขาสูญเสียทุกอย่าง แต่คุณรู้ไหม งานก็มาหาฉัน และฉันคิดว่านี่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อผู้คนดิ้นรนและพวกเขาพูดเหมือนที่คุณพูดก่อนหน้านี้ เช่น ประสบการณ์ของคุณ เช่น คุณรู้ไหม คุณยังไม่ได้รับสิ่งที่คุณต้องการ แต่จะเป็นอย่างไรถ้ารูปแบบ เช่น ฉันเป็นแก่นแท้ของสิ่งที่ฉันต้องการเสมอมา เพราะนั่นคืออีกเรื่องหนึ่ง ฉันหลอกตัวเองจริงๆ เพราะฉันคุกเข่าทุกวัน และฉันสวดอ้อนวอนทั้งหมด และคุณรู้ไหม แสดงให้ฉันเห็น ใช้ฉันตามที่พระองค์ต้องการ ขอให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จลุล่วงผ่านฉัน คุณรู้ไหม ช่วยปลดปล่อยฉันจากการเป็นทาสของตัวเอง เพื่อที่ฉันจะได้ทำตามพระประสงค์ของพระองค์ได้ดีขึ้น ใช่ไหม ขอให้มีชีวิต ใช้ฉันตามพระประสงค์ และมันก็เหมือนกับว่า และ ป.ล. ฉันอยากเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียง ใช่ไหม มันก็เหมือนกับว่า ไม่ ป.ล. มันไม่เกิดขึ้น และลูกค้าก็เข้ามา และสิ่งนี้ก็เข้ามา และฉันก็ได้รับข้อตกลงเรื่องหนังสือกับ Hay House เหมือนกับว่าฉันไม่มีแผนจะเขียนหนังสือ แต่ฉันก็ได้มันมา ประตูประหลาดๆ ทั้งหลายเปิดออกเรื่อยๆ และก็แบบ โอเค นี่มันน่าขนลุก แล้วฉันก็แบบ ฉันไม่ใช่ร่างทรง ฉันไม่ใช่ร่างทรง ฉันรู้แค่บางอย่างเกี่ยวกับคนตาย และสิ่งต่อไปที่คุณรู้ ฉันก็แบบ โอเค ฉันได้กลิ่นพวกเขาแล้ว โอเค โอเค เพราะฉันไม่อยากเหยียบเท้าคนทรงทรงที่ Hay House ฉันแบบว่า โอ้พระเจ้า เพื่อนของฉัน จอห์น เขาเป็นร่างทรง ฉันไม่ได้พูดแบบนั้นเพราะฉันไม่ได้รับการฝึกฝน ฉันเป็นคนไม่มีพรสวรรค์และไม่รู้อะไร แต่ที่รู้คือความสามารถที่แสดงออก ฉันรู้ถึงความแตกต่างระหว่างใคร อะไรคือตัวฉัน อะไรคือความต้องการ อะไรคืออัตตา และอะไรคือจิตวิญญาณ ฉันรู้วิธีแยกแยะสิ่งเหล่านี้ออกจากกัน และมันก็ออกมาจากตัวฉันเอง และสำหรับฉัน มันดูเป็นธรรมชาติเกินไป และฉันไม่ได้คิดว่ามันเป็นงานหนักพอ ถ้าคุณเข้าใจแบบนั้น แล้วฉันก็รู้ว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่จิตวิญญาณต้องการให้เป็น ไม่ใช่เรื่องการเร่งรีบ ไม่ใช่การผลักดันไปข้างหน้า ไม่ใช่การทำงานหนัก มันคือการยอมจำนนและได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ และนี่คือสิ่งที่ฉันทำได้ ลุยเลย

ฉันต้องถามคุณเรื่องนี้ ใช่ คุณสามารถถามฉันได้ในตอนที่คุณกำลังไล่ตามความฝัน ใช่ ฉันพูดกับตัวเองหลายครั้ง เพราะฉันโกรธพระเจ้า ฉันโกรธที่มา ฉันถูกเลี้ยงดูมา ฉันถูกเลี้ยงดูมาแบบคาทอลิก ดังนั้นฉันจึงเชื่อในเรื่องพลังที่ยิ่งใหญ่กว่าเสมอ ไม่ว่าจะมีหลักคำสอนใดก็ตาม และฉันก็มักจะพูดว่า ทำไมคุณถึงมอบความฝันนี้ให้ฉัน ทำไมคุณถึงมอบแรงกระตุ้น แรงผลักดัน ความสามารถ และประสบการณ์ ทำไมคุณถึงทำแบบนี้กับฉัน และไม่อนุญาตให้ฉันไปถึงจุดที่ฉันต้องการ ทำไมโอเปร่าเหล่านั้น ประตูเหล่านั้นปิดลงใส่ฉัน ทำไมมันถึงเป็นแบบนั้น และฉันโกรธมากเกี่ยวกับเรื่องนั้น คุณเคยถามคำถามนี้ไหม

โอ้พระเจ้า ฉันรู้สึกขัดแย้งมาก เพราะในแง่หนึ่ง ฉันเชื่อและไว้ใจ และในอีกแง่หนึ่ง ฉันเป็นมนุษย์ที่หงุดหงิดที่สุด และฉันก็โกรธ และฉันก็คิดว่า นี่มันอะไรกัน ฉันมีความสามารถ ฉันควรจะมีสิ่งนี้ ฉันรู้ว่ามันกำลังบอกอะไรฉันอยู่ แต่ฉันอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น ฉันจึงนึกภาพตัวเอง เพราะฉันจะได้รับภาพของตัวเองที่ยืนถือไมโครโฟน และในโตรอนโต ฉันมาจากโตรอนโตในแคนาดา มีสถานที่แห่งหนึ่งชื่อว่า Massey Hall และที่นั่นก็กลายมาเป็น Roy Thompson Hall ใช่ไหม และฉันมองเห็นตัวเองถือไมโครโฟนอยู่ต่อหน้าผู้คนนับพันบนเวทีนั้น สองหรือสองปีหลังจากที่อยู่กับ Hay House ฉันก็ได้ถือไมโครโฟนในมือต่อหน้าผู้คนนับพันที่ Massey Hall, Roy Thompson Hall ที่กำลังอ่านหนังสือ และฉันก็คิดว่า ในขณะที่ฉันยืนอยู่ตรงนั้น พวกเขาก็เล่นเพลงของฉันด้วย พวกเขาเล่นเพลงของฉันก่อนที่ฉันจะขึ้นเวที

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 46:18
มันเป็นเวอร์ชันอื่นของความฝัน และฉันเถียงว่าเวอร์ชันของเราอาจจะดีกว่าความฝัน เพราะเวอร์ชันนี้ไม่ได้ดำเนินตามแนวทางของ Janis Joplin

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 46:30
คุณรู้ไหม ฉันโชคดีมากที่ได้อยู่ในนั้น

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 46:35
ใช่แล้ว ทั้งหมดนั้น ทั้งหมดนั้น เหมือนกับว่า ฉันจะทำลายตัวเองแบบร็อคสตาร์ นี่คือสิ่งที่มีเสถียรภาพและยั่งยืนกว่ามาก

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 46:44
ฉันทำงานบริการและฉันก็ทำงานบริการ ฉันไม่เหนื่อย มันไม่เกี่ยวกับฉันใช่ไหม? มันไม่เกี่ยวกับฉันจริงๆ ใช่ไหม? มันเกี่ยวกับฉันและฉันไม่เชื่อว่าฉันมีความคิดริเริ่มด้วย ฉันไม่เชื่อจริงๆ ฉันเชื่อว่าตอนนี้มีพวกเราหลายคนที่พูดถึงเรื่องที่คล้ายกันมาก มันเป็นเพียงเพราะผู้คนต้องการได้ยินจากบุคลากรที่แตกต่างกัน บุคลิกที่แตกต่างกัน คุณรู้ไหม เหมือนกับเรา เราเห็นรสชาติทั้งหมด รสชาติที่แตกต่างกันของสิ่งเดียวกัน ถูกต้อง เราเป็นไอศกรีมกันหมด แต่ฉันก็แบบว่า คุณรู้ไหม สปอโมน

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 47:13
แต่สิ่งที่ฉันทำก็เหมือนกัน ฉันหมายความว่า มีรายการหลายสิบรายการที่พูดถึงผู้ที่มีสัญชาตญาณ ผู้มีพลังจิต ผู้ลึกลับ ประสบการณ์ใกล้ตาย และอื่นๆ อีกมากมาย มีรายการมากมายที่ทำแบบนั้น แต่ผู้คนอาจชอบวิธีที่ฉันทำเพราะรสนิยมและประสบการณ์ของฉัน ฉันชื่นชมมัน และพวกเขาหลายคน และฉันไม่ใช่คนประเภทที่ใครๆ ก็ชอบ และพวกเขาก็จะไปดูรายการอื่น ซึ่งนั่นก็โอเค แต่ฉันคิดว่านั่นเป็นเหตุผลที่ฉันนำบุคลิกที่แตกต่างกันมากมายมา คนจำนวนมากจากหลากหลายอาชีพมาพูดคุยในหัวข้อเดียวกัน เพราะการสนทนานี้ไปในที่ที่ไม่เคยไปมาก่อน ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราจะไปที่นั้นเพราะเราไม่ได้ไป ไม่ ไม่ มันเป็นการสนทนาที่เป็นธรรมชาติ และนั่นคือสิ่งที่ผู้คนต้องการได้ยินจริงๆ เพราะประเด็นคือเรื่องราวของคุณอาจไม่ถูกใจใครหลายคน แต่ถูกใจคนจำนวนหนึ่ง พวกเขาจะบอกว่า โอ้ ฉันเข้าใจนะ เพราะว่าพวกเขาเชื่อมโยงกับคุณและเรื่องราวของคุณ พวกเขาเชื่อมโยงกับฉันและเรื่องราวของฉัน หรืออะไรทำนองนั้น ดังนั้น มันคือหน้าที่ มันคือหน้าที่ของฉัน ภารกิจของฉันคือการแสดงให้เห็นแสงสว่างที่ส่องไปยังเรื่องราวต่างๆ ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฉันหมายความว่า ฉันสามารถ ฉันสามารถพูดหลายๆ อย่างที่คุณกำลังจะพูดถึงในอีกไม่กี่นาที เพราะฉันจะถามคำถามที่คล้ายกันกับคุณ และฉันรู้ว่ามันจะไปทางไหน แต่มุมมองของคุณ มันอาจจะแตกต่างไปเล็กน้อย แต่ก็แตกต่างกัน ฉันต้องถามคุณก่อนที่เราจะไปถึงคำถามเหล่านั้น ฉันอยากถามคุณว่าเมื่อคุณพูดกับคนตาย ใช่มั้ย คุณเห็น คุณเห็น คุณได้ยิน คุณได้ยินพวกเขา ฉันชอบเสมอ ฉันมักจะพูดว่า นี่คือผีใช่ไหม นี่คือ Whoopi Goldberg หรือแค่เดินไปมาเหมือนสัมผัสที่หก แล้วก็เห็นคนตายเหมือนอย่างที่คุณทราบ มี Bob จากสมัยโรมันนะ คุณรู้ไหม

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 49:06
ไม่, ของฉันคือไม่, นั่นตลกดี และฉันรัก Whoopi Goldberg เมื่อเธอรู้ว่าเธอมีมันจริงๆ ฉันก็ไม่เห็น ฉันไม่เห็นอะไรเลย อืม ฉันเข้าใจว่าฉันจำพวกเขาได้ มันเหมือนกับว่าอยู่ๆ ฉันก็จำชื่อได้ ฉันจำได้ว่ามันมีกลิ่นยังไง ฉันจำความรู้สึกของพวกเขาได้ ฉันจำเรื่องราวเหล่านั้นได้ มันเหมือนกับว่าพวกมันเป็นความทรงจำของฉัน แต่ฉันเป็นของขวัญที่มอบให้เป็นของขวัญเพื่อให้ฉันได้ดูและเข้าใจมัน ดังนั้นฉันจึงไม่ได้... มีแค่หนึ่งหรือสองครั้งเท่านั้นที่ฉันได้เห็นใครบางคนเดินผ่านบ้านของฉันจริงๆ ในขณะที่ฉันกำลังอ่านหนังสือทางโทรศัพท์ ฉันรู้สึกว่าคุณควรออกจากบ้านของฉันไป ฉันจะไม่ยอมให้มีสิ่งนั้น ฉันไม่รังเกียจที่จะทำทางโทรศัพท์ ฉันไม่รังเกียจที่จะฟัง แต่ฉันจะไม่มองใครก็ตามที่ไม่ควรอยู่ที่นั่น เหมือนกับว่าฉันมีคำเตือนว่านั่นไม่เหมาะกับฉัน ฉันแค่ไม่ต้องการมัน แต่ฉันได้ข้อมูลมา และพวกเขาก็เข้ามาแทรกแซงฉันเล็กน้อย ฉันเคยฝึกสื่อวิญญาณเพียงครั้งเดียว ซึ่งน่ากลัวมากบนเวที และฉันก็ไม่อยากทำแบบนั้นอีก ดวงอาทิตย์ ฉันคิดว่าฉันรู้แล้วว่าฉันโอเคกับอะไร แต่สำหรับฉัน มันเหมือนกับว่าพวกเขาแสดงความรู้สึกออกมา พวกเขาสามารถระบุตัวตนผ่านหลักฐาน และจากนั้นพวกเขาก็มักจะมีบทสนทนาที่อยากจะเล่าเสมอ และมันก็เหมือนพังไปแล้ว มันเหมือนกับว่าได้ยินอะไรบางอย่างที่ถูกต้องนิดหน่อย คุณรู้ไหม? มันเหมือนกับว่า ฉันได้มันมาบ้างและอะไรก็ตาม แล้วฉันก็แค่บอกว่า โอเค นี่คือสิ่งที่ฉันกำลังได้รับ มันอาจจะไม่ถูกต้อง 100% แต่คุณรู้ไหมว่านี่หมายถึงอะไร? คนเขาก็ไป โอ้โห แน่นอน ฉันรู้ว่ามันหมายถึงอะไร อื่น ๆ. และพวกเขาก็แบบ โอเค แล้วฉันจะแปลอะไรบางอย่าง เหมือนฉันเป็นล่ามเลย ฉันคือผู้แปลประสบการณ์ชีวิตของคนอื่น แต่ฉันยังคงจำพวกเขาอยู่ มันเป็นเรื่องเดียวกัน เมื่อฉันมองไปในอนาคต ฉันก็จดจำอนาคตได้ ฉันจำสิ่งนี้ที่กำลังจะมาถึงได้ ฉันจำมันได้. สำหรับฉัน มันเกี่ยวกับความรู้สึกและความทรงจำ ดังนั้นเมื่อฉันเห็นสื่อ ให้บอกว่า โอ้ ฉันเห็นสิ่งนี้อยู่ข้างหลังคุณ ฉันรักมัน. ฉันไม่เห็นใครอยู่ที่นั่น แต่ฉันรู้ว่าฉันกำลังเก็บอะไรอยู่ คุณรู้ว่าฉันหมายถึงอะไร? และเราทุกคนต่างรู้สึกและสัมผัสถึงประสบการณ์ที่แตกต่างกันออกไป สำหรับฉัน มันเป็นเรื่องของการเข้าถึงจิตสำนึก และฉันไม่สามารถมีการสนทนาสองทางได้ ฉันพยายามถามอยู่เสมอว่าที่นั่นเป็นยังไงบ้าง? แล้วผมจะบอกให้ทุกคนได้ใช่ไหมครับ? และเหมือนว่าว่างเปล่า คุณรู้ว่า มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น มันเหมือนกับว่าฉันกำลังถูกใช้แทนใครบางคนต่อหน้าฉัน เหมือนกับว่าฉันอ่านหนังสือเดือนละสองครั้ง ที่เดียวที่ฉันทำบนเว็บไซต์สมาชิกของฉัน เรียกว่า Spirit Jam แล้วฉันก็ทำการอ่านไพ่จากไพ่ออราเคิล ฉันจะทำการฝึกสอนและสื่อวิญญาณซึ่งได้ผลกับใครก็ตามที่อยู่ตรงหน้าฉันอย่างแน่นอน และมันก็เหมือนว่า ฉันก็แบบ โอ้ โอ้ นี่มันสมเหตุสมผลกับคุณมั้ย? ประมาณว่า ประมาณนั้น แล้วคุณก็จะเรียกมันว่าอะไรสักอย่าง แล้วฉันก็จะได้คำภาษาเยอรมัน แล้วผู้ชายคนนั้นก็พูดว่า โอ้พระเจ้า แม่ของฉันเคยทำสิ่งนี้ให้ฉันตอนที่ฉันยังเป็นเด็กและหรืออะไรประมาณนั้น ใช่ไหม? ดังนั้น มันเกี่ยวกับการเชื่อมต่อกับจิตสำนึกมากกว่า กล่าวคือ ฉันเชื่อว่านั่นคือสิ่งที่พวกเราทุกคนกำลังใช้ประโยชน์ และเด็กๆ รุ่นใหม่ที่กำลังเติบโตขึ้นก็มีจุดเข้าถึงแล้ว เด็กทางพันธุกรรมรุ่นใหม่ มนุษย์รุ่นใหม่ที่มาผ่านทางโทรจิต สิ่งต่างๆ เช่นนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความสามารถของเรา ดังนั้นเมื่อฉันเปิดดู ฉันก็รู้สึกว่าฉันกำลังแตะเข้าไปในทรัพยากรบางอย่างที่แบ่งปันกัน สำหรับฉัน มันเกี่ยวกับจิตสำนึกมาโดยตลอด มันเหมือนกับว่าเราแบ่งปันสิ่งนี้ คุณมาหาฉัน

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 52:20
คุณเคยได้ยินเรื่องเทปโทรจิตบ้างไหม?

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 52:23
ใช่ ๆ.

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 52:25
ฉันแค่ ฉันแค่ จริงๆ ใช่ เราเพิ่งปล่อยตอนที่มีบทสนทนากับผู้กำกับในวันเสาร์ที่ผ่านมา ใคร ใครคือ...

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 52:31
โอ้ ฉันต้องดูมัน ฉันต้องดูมัน

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 52:34
ใช่แล้ว เป็นตอนที่ยอดเยี่ยมมาก และเป็นเรื่องที่สวยงามมากเกี่ยวกับเด็ก ๆ ที่ไม่พูด ไม่เหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการฟัง เด็กที่อยู่ในกลุ่มอาการออทิสติกหรือกลุ่มอาการออทิสติก และพวกเขาสามารถรับรู้ทางจิตได้ และได้รับการพิสูจน์แล้วทางวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่แค่กับพวกเราสองสามคน แต่ทั่วโลก ใช่แล้ว เรื่องราว

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 52:55
พวกเขาทั้งหมดมารวมตัวกัน

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 52:57
คุณรู้ไหม มันน่าทึ่งมาก ใช่ มันน่าทึ่งมาก ใช่แล้ว ผู้คนเริ่มเข้าใจว่าวิทยาศาสตร์กำลังตามทันเรื่องนี้แล้ว เพราะพวกเขาเริ่มทดสอบมัน และพวกเขาก็คิดว่า มีบางอย่างกำลังเกิดขึ้น และเราสามารถทดสอบมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า และก็มีบางอย่างกำลังเกิดขึ้น

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 53:13
IANDS ใน ใช่ คุณรู้ไหม มันเป็นอย่างนี้เสมอ อย่าเห่า และหมาของฉันก็ตื่นมาบนตักฉัน IANDS เป็นหนึ่งในรายการโปรดของฉัน คุณรู้ไหม รายการโปรด พวกเขาทำการวิจัยทางวิทยาศาสตร์มากมายเกี่ยวกับปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ ก่อนที่มันจะเป็นที่นิยม แม้กระทั่งจริงๆ คุณรู้ไหม ตอนนี้ เราได้เห็นการศึกษาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะวิทยาศาสตร์กำลังตามทัน เช่น ลองดูคำประกาศสำหรับวิทยาศาสตร์หลังวัตถุนิยม เช่น ฟิสิกส์ควอนตัมที่แตกต่างกันมากมาย ใช่ เหมือนกับที่บอกว่าจิตสำนึกเป็นพื้นฐานของชีวิต นั่นคือเหตุผลที่ฉันเชื่อว่าฉันเป็นวิญญาณนิยม ฉันเชื่อว่ามีวิญญาณอยู่ในทุกสิ่ง และนั่นก็เหมือนกับว่าจิตสำนึกมีอยู่จริง เราเป็นก้อนใหญ่ของจิตสำนึก จิตสำนึกในโนโอสเฟียร์ที่มีอยู่รอบโลกของเรา และยังมีมิติหลายมิติด้วย ดังนั้นไม่มีทางที่สิ่งนี้จะไม่มีอยู่ ก็แค่ว่าไม่ใช่ทุกคน เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะมีมัน คนๆ หนึ่งจะกลัว และเพราะฉะนั้นพวกเขาจึงยัดเยียดความเชื่อโชคลางและลัทธิความเชื่อของตนให้กับมัน ซึ่งไม่ควรเป็นเช่นนั้น และคุณควรมีคนกลาง คุณควรจะกลัวหรืออะไรทำนองนั้น คุณรู้ว่าคุณไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ หรือต้องให้มันเป็นอย่างนั้น และความจริงก็คือ มันเป็นเรื่องธรรมชาติสำหรับบางคน เราทำอะไรหลายๆ อย่างไม่ได้เหมือนคนปกติ แต่ฉันคุยกับคนตายได้ และฉันรู้ และฉันสามารถมองเห็นอนาคตในบางกรณี หรือมองเห็นความเป็นไปได้จากจุดคำตอบที่เฉพาะเจาะจง ฉันไม่เชื่อในลัทธิการกำหนดตายตัวเลย ฉันไม่รู้ และมีตัวเลือกนับล้าน

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 54:44
ดังนั้น เรามาพิจารณาเส้นทางที่คุณกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่ามนุษยชาติกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่ยากลำบากในอีก 2-3 ปีข้างหน้านี้กันดีกว่า คุณอธิบายเพิ่มเติมได้ไหมว่าคุณมองเห็นอะไรสำหรับมนุษยชาติ?

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 54:58
สิ่งที่ฉันเห็น? ดังนั้นฉัน ฉันจะพูดบางอย่างที่สำคัญมากที่เราต้องรู้ เช่น ฉันเป็นคนแคนาดา ฉันคิดว่าคุณเป็นคนอเมริกัน และเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ไม่มีอะไรเลย ฉันไม่สนใจเรื่องนั้นเลย เพราะถ้าคุณไปข้างบน ถ้าคุณนั่งบนหิ้งและมองดูโลกได้ นั่งบนหิ้งและมองดูโลกตรงนั้น เรากำลังประสบกับการเปลี่ยนแปลงระดับโลก นี่เป็นสิ่งที่คนหลายล้านคนคาดการณ์ไว้จากวัฒนธรรมที่แตกต่างกันมากมาย ฉันหมายความว่า มันไม่สำคัญด้วยซ้ำที่จะบอกว่าอันไหน ใช่ไหม คุณรู้ไหมว่าฉันหมายถึงอะไร นี่คือสิ่งที่เรารู้อยู่แล้วว่ากำลังจะมาถึง และนี่ไม่ใช่แบบ Y2K หรือ 2012 ใช่ไหม ไม่ใช่ว่าเราทุกคนกำลังนั่งรอวันสิ้นโลก ซึ่งหมายถึงการเปิดเผยด้วยเช่นกัน ใช่ไหม มันดีสำหรับการเปิดเผย เป็นสิ่งที่ต้องเปิดเผย และฉันคิดว่าด้วยการถือกำเนิดของ AI ด้วยการถือกำเนิดของการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมของเรา เด็กๆ ที่กำลังถือกำเนิดในตอนนี้ และใช่ โครงสร้างต่างๆ ที่กำลังสลายตัว เราจำเป็นต้องมีการรื้อถอนในตอนนี้สำหรับยุคทองใหม่นี้ที่คาดการณ์ไว้ว่าจะมาถึงและมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ ไม่มีการเกิด ฉันหมายถึง ถ้าคุณมองย้อนกลับไป ถ้าคุณเป็นผู้ชายคนแรกที่เคยเห็นผู้หญิงให้กำเนิดลูก โอเค? โอ้ ไม่ ไม่ ไม่ น่าตื่นเต้น ใช่ไหม? มันเหมือนกับ

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 56:14
เธอดูเหมือนกำลังจะตาย เธอดูเหมือนพวกเขาจะฆ่าเธอ

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 56:16
เธอไม่เคยสนใจคุณเลย ดูทุกอย่างที่เกิดขึ้น เธอโตขึ้นเรื่อยๆ เธอมีริดสีดวงทวาร เธอเป็นคนน่ารำคาญ เธอรู้สึกไม่ดี เหมือนกับว่า คุณรู้ไหมว่าฉันหมายถึงอะไร จากนั้นเธอก็เริ่มกรีดร้องและตะโกน แล้วของเหลวก็ไหลออกมาจากตัวเธอ และแล้วทารกก็ร่วงหล่นออกมา แล้วทุกอย่างก็เรียบร้อยดี เราอยู่ในช่วงนั้น เรายังไม่ได้สวมมงกุฎด้วยซ้ำ เรากลัวที่แคบ โอเค เราอยู่ในช่องคลอด เราต่างก็วิตกกังวล และเราจะออกมา แต่มันก็เหมือนกับว่า ถ้าคุณมองดูการเปลี่ยนแปลงที่มากขึ้น ถ้าคุณมองดูสิ่งนั้น ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหนอนผีเสื้อ มันต้องตายจากตัวมันเองเพื่อที่จะเกิดมา และมันต้องใช้กำลังของตัวเองเพื่อดึงตัวเองออกมาจากรังไหม ใช่ไหม มันต้องออกมาที่นั่น เราไม่สามารถช่วยผีเสื้อให้หลุดออกจากรังไหมได้ มันต้องบินได้ด้วยตัวเอง พวกเราทุกคนกำลังเผชิญกับเรื่องนี้ และสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่เราทุกคนสามารถทำได้ในตอนนี้ก็คือ การมองรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของสถานการณ์โลกในปัจจุบัน แม้ว่าจะเป็นเรื่องบ้าๆ บอๆ มากมายก็ตาม ซึ่งไม่ได้มีความหมายอะไรเลย และมันยากที่จะบอกได้ว่าหมายความว่าอย่างไร เพราะนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกระบวนการนี้ และสิ่งที่เราเห็นในวันนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปในปีหน้าหรือปีถัดไป เราอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติ และเราทุกคนเลือกที่จะอยู่ที่นี่ นั่นคือสิ่งที่ฉันเชื่อ คุณรู้ไหม และทุกอย่างจะดำเนินไปหรือไม่ มันก็เหมือนกับว่า มันจะดีไหม มันจะแย่ไหม มันจะแตกต่าง มันจะแตกต่างมาก และมันจะสนับสนุนเราในแบบที่เราต้องการเพื่อให้เราอยู่บนโลกใบนี้ได้ จนกว่าโลกจะตัดสินใจไล่เราออกไป หากมันเกิดขึ้นจริง

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 57:47
สิ่งที่สำคัญคือผู้คนต้องการสิ่งต่างๆ มากมาย คนส่วนใหญ่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงในฐานะคำพูดทั่วไป มนุษยชาติในฐานะคำพูดทั่วไป ความแน่นอน ใช่ คุณต้องการความแน่นอน เพราะถ้าไม่เป็นเช่นนั้น เสือจะฆ่าคุณที่มุมถนน นั่นเป็นสิ่งที่คุณต้องการ ใช่ ดูเหมือนว่าจะเป็นครั้งสุดท้าย ฉันจะพูดว่าทศวรรษนี้แน่นอน แต่ฉันจะบอกว่าเป็นครั้งสุดท้าย ฉันคิดว่าตั้งแต่ปี 2012 ฉันคิดว่าจริงๆ แล้ว สิ่งต่างๆ เริ่มไม่แน่นอนมากขึ้น วุ่นวายมากขึ้น เปลี่ยนแปลงและเร็วขึ้นในแบบที่ฉันไม่เคยเห็นในชีวิต ฉันแน่ใจว่าคุณไม่เคยเห็นในชีวิตของคุณเช่นกัน แต่ช่วงเวลาที่ปี 2020 เข้ามา ทศวรรษนี้ที่เราเข้ามา เราเข้ามาอย่างร้อนแรงด้วย COVID และทั้งหมด ฉันหมายถึง เข้ามาอย่างร้อนแรงจริงๆ และทุกปีนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มีความบ้าคลั่งแบบนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และปีนี้ในฐานะการบันทึกเสียง ไม่ได้ ไม่หวั่นไหวในแง่นั้นเช่นกัน

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 58:55
ฉันขอเสริมตรงนี้ได้ไหม ขอโทษที ฉันสังเกตเห็นอะไรหรือเปล่า ฉันรบกวนคุณบ่อยมาก แต่เป็นเพราะว่าฉันตื่นเต้น

อเล็กซ์ เฟอร์รารี่ 59:03
ไปเลย ไม่เป็นไร

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 59:04
ความไม่แน่นอนที่ต่อเนื่องกันเป็นสิ่งที่เราทุกคนต่างต้องเผชิญมาโดยตลอด ตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา ความไม่แน่นอนที่ต่อเนื่องกันมาได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ มนุษย์โหยหาความแน่นอนในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนมากกว่าสิ่งอื่นใด พวกเขาจึงไปและพูดว่า แสดงให้ฉันดู บอกฉันสิ บอกฉันสิว่าทุกอย่างจะโอเค บอกฉันสิว่าทุกอย่างจะโอเค แต่ความแน่นอนของเรานั้นไม่สามารถมาจากตัวเราได้ ซึ่งจะกำหนดว่าเรามั่นใจหรือไม่มั่นใจแค่ไหนโดยการมองดูโลกภายนอกเพื่อกำหนดว่าเราจะรู้สึกอย่างไร เราไม่อาจรอให้มันแสดงออกมาได้ มันจะไม่แสดงออกมา และเราต้องฝึกตัวเองใหม่ให้เชื่อมั่นว่าความแน่นอนต้องมาจากภายใน และเรามีเทคโนโลยีสำหรับโลกภายในที่สามารถรับรู้ได้ว่าสิ่งภายนอกที่ไม่รู้จักไม่ใช่สิ่งที่เราต้องให้ความสนใจ เพราะเมื่อนั้นเราจะถูกหลอกล่อ และนั่นคือเวลาที่เรากลัว จากนั้นจึงเกิดการตอบสนองต่อความเครียด และคุณไม่สามารถทำได้ เมื่อคุณออกลาดตระเวนเพื่อค้นหาภัยคุกคาม คุณไม่สามารถสร้างความเป็นจริงของคุณจากสถานที่แห่งความคิดสร้างสรรค์ได้ คุณทำไม่ได้ เพราะสัญชาตญาณของคุณกลายเป็นสัญชาตญาณเพื่อการเอาตัวรอด มันไม่ได้ทำงานให้คุณแบบนั้นอีกต่อไป ดังนั้นเคล็ดลับคือตอนนี้มันไม่ใช่เคล็ดลับด้วยซ้ำ คำเชิญสำหรับเราตอนนี้คือการกำหนดว่าความแน่นอนของเรามาจากไหน และสำหรับฉัน เมื่อฉันทำงานอย่างเต็มที่ ความแน่นอนของฉันมาจาก และมันไม่ได้มาจากที่นั่น พระเจ้าจะแก้ไขมันงั้นเหรอ นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันหมายถึง มันคือการรู้ว่าฉันทำมาจากสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า เทคโนโลยีภายในของฉันนั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าที่ฉันรู้ และหน้าที่ของฉันก็คือการแยกตัวออกจากตัวตนที่ถูกจำกัดให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ในแต่ละวัน และฉันจะไม่ทำมันให้สมบูรณ์แบบทุกวัน แต่ฉันจะรู้ว่ามีบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าฉันที่คอยควบคุมทุกอย่างอยู่ เช่น ใครที่ยิ่งใหญ่และมีอำนาจเหนือคนอื่น นั่นไม่ใช่ฉัน และการยอมรับอย่างสุดโต่งว่ามีบางสิ่งที่ฉันไม่รู้และสิ่งที่ฉันเป็นอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถรู้ได้ แต่ฉันต้องปฏิบัติตาม และเมื่อฉันทำเช่นนั้น ฉันก็รู้สึกปลอดภัย เพราะหากความปลอดภัยของฉันไม่ได้ถูกกำหนดโดยว่าสิ่งภายนอกสะท้อนให้ฉันเห็นหรือไม่ว่าฉันสบายดี นั่นสมเหตุสมผลหรือไม่

อเล็กซ์ เฟอร์รารี 1:01:14
มันสมเหตุสมผลดี แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันอยากจะเสริมคือคุณและฉันผ่านจุดต่างๆ ในชีวิตของเราเองที่บังคับให้เราปล่อยวาง ใช่ไหม คุณรู้ไหม เราตกต่ำสุดทางจิตวิญญาณ หรือต่ำสุดในอาชีพการงาน ไม่ว่าจะเป็นการเงิน อาชีพ ความรัก หรืออะไรก็ตาม เราตกต่ำสุดจนถึงจุดที่จักรวาลทำให้เราคุกเข่า ใช่แล้ว และเรามีทางเลือกจริงๆ ว่าเราจะใช้ชีวิตที่นี่ต่อไป หรือคุณจะปล่อยวางได้ ใช่แล้ว ถ้าคุณปล่อยวาง เราจะพาคุณไปในเส้นทางนี้ และมันจะงดงามยิ่งกว่าที่คุณจะจินตนาการได้ มันจะยิ่งใหญ่เกินกว่าที่คุณจะคิดได้หากคุณยอมให้มันเกิดขึ้น แต่จักรวาลยังคงโจมตีเราและโจมตีเราอยู่เรื่อยๆ นั่นเป็นคำพูดที่ยุติธรรมหรือไม่

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 1:02:09
1,000% และนั่นคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับผู้คนมากมายในตอนนี้ แต่นั่นคือเหตุผลว่าทำไมคุณถึงเป็นประภาคารที่คอยขวางทางคุณ เราเป็นคนละรสชาติของประภาคารเดียวกัน คุณรู้ไหมว่าฉันกำลังพูดถึงอะไร มันเหมือนกับที่นี่ทำสิ่งนี้เพื่อแสดงให้คนอื่นเห็น ถ้าฉันทำได้ คุณก็ทำได้เช่นกัน เช่น ฉันถูกโหวตว่ามีโอกาสประสบความสำเร็จน้อยที่สุดโดยผู้คนในศูนย์บำบัดสำหรับผู้หญิงของฉัน เช่น โอ้ นั่น

อเล็กซ์ เฟอร์รารี 1:02:31
แต่สิ่งที่สำคัญคือ และนี่คือสิ่งที่ผู้คนไม่เข้าใจ นั่นคือ ใช่ หลายคนกำลังประสบกับการตื่นรู้ในตอนนี้ ไม่ต้องสงสัยเลย จำนวนรายการนี้อธิบายได้ว่าเป็นหลักฐานว่าสิ่งนั้นเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ใช่ เพราะรายการแบบนี้คงไม่มีผู้ติดตามเกินล้านคนหรอก นั่นมันบ้าไปแล้ว นี่เป็นเรื่องประหลาด เรากำลังพูดคุยกับผู้มีพลังจิตและคนลึกลับ คนที่คุยกับคนตาย เพื่อพระเจ้า ใครทำอย่างนี้ คุณคงรู้ว่าฉันหมายถึงอะไร ดังนั้น ผู้คนจึงดำเนินไปในเชิงปัจเจกบุคคล แต่ฉันคิดว่าในเชิงมหภาค จักรวาล แหล่งที่มา ไม่ว่าคุณจะเรียกมันว่าอะไร ตอนนี้กำลังดำเนินการในลักษณะรวมหมู่กับมนุษยชาติทั้งหมด ดังนั้น COVID จึงเป็นครั้งแรก เช่นเดียวกับกลอุบายเหล่านั้น ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นแล้ว เกิดขึ้นแล้ว และจะเกิดขึ้นในอนาคต ในแง่ของตรรกะ สิ่งแวดล้อม องค์กรต่างๆ ตั้งแต่ศาสนาไปจนถึงการดูแลสุขภาพ ศิลปะ ไปจนถึงสื่อ ทุกอย่างกำลังถูกเขย่าจนสั่นคลอนถึงแกนกลาง เพราะจำเป็นต้องถูกทำให้อ่อนลงเพื่อให้สิ่งใหม่นี้เกิดขึ้นได้ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องดี เพราะคุณและฉันสามารถพยายามได้เหมือนกัน

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 1:03:51
และมันไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนั้น และฉันคิดว่าผู้คนก็คิดแบบนั้น ดังนั้นฉันจะยกตัวอย่างให้คุณฟัง เมื่อฉันเลิกเหล้า ฉันมีคนที่ไม่เมาและไม่เมา ซึ่งมีประสบการณ์เลวร้ายกว่าที่จะเกิดขึ้นกับฉัน ซึ่งฉันรู้ว่าฉันกำลังพูดถึงอะไร แต่พวกเขาเคยทำมาแล้ว และฉันก็ทำตามระบบนี้ ใช่ไหม คุณรู้ไหม 12 ขั้นตอนในตอนนั้น ใช่ไหม ฉันจึงทำตามนั้นอย่างจริงจัง ฉันก็เลยแบบว่า แสดงให้ฉันดูสิ โอ้ ว้าว คุณได้ประสบกับสิ่งนั้น คุณทำอะไร ใช่ไหม เราทำได้ดี และฉันก็คิดเหมือนกัน แต่ให้ฉันเล่าให้คุณฟังเกี่ยวกับรายการของคุณ หนึ่งในส่วนที่ดีที่สุดของรายการของคุณ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ฉันแบบว่า ฉันชอบผู้ชายคนนี้ คือคุณทำให้เราดูเหมือนมนุษย์ เหมือนกับว่าเราไม่ได้อยู่บนแท่นสูงที่นี่ เรากำลังแบ่งปันข้อมูล เราเป็นมนุษย์ที่นี่โดยที่ไม่ต้องการอยู่บนแท่นสูงของใคร ฉันอยากแบ่งปันประสบการณ์ ความแข็งแกร่ง และความหวังของฉันกับคนอื่นๆ และบอกว่า มันได้ผลสำหรับฉัน นี่คือสิ่งที่ฉันทำ เอาสิ่งที่คุณชอบและทิ้งส่วนที่เหลือ แล้วหาบางอย่างจากคนอื่นด้วย เพราะตอนนี้เราทุกคนต้องการความช่วยเหลือ และคุณพูดถูก ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังดำเนินไป และมันจะไม่น่าพอใจ และมันจะแย่ แม้แต่คนที่คิดว่ามันเป็นความโชคดี โอ้พระเจ้า นี่คือสิ่งที่ดีที่สุด และนี่คือสิ่งที่ฉันต้องการ พวกเขาก็จะต้องผ่านสิ่งที่ไม่น่าพอใจเช่นกัน ใช่ไหม ไม่สำคัญว่าคุณมาจากไหน สิ่งที่ไม่น่าพอใจคือการเปลี่ยนแปลง เพราะมนุษย์ไม่ต้องการมัน เพราะไม่ว่าอะไรก็ตาม ทันทีที่คุณได้รับสิ่งที่คุณพูดว่าต้องการ คุณจะพัฒนาเป็นอย่างอื่น และคุณต้องกลายเป็นคนที่ใช้ชีวิตแบบนั้น คุณต้องเปลี่ยนแปลง คุณไม่สามารถนั่งเฉยๆ อยู่เฉยๆ ได้ ไม่มีอะไรที่เรียกว่าหยุดนิ่ง คุณรู้ไหม

อเล็กซ์ เฟอร์รารี 1:05:24
เหมือนอย่างที่เราพูด เหมือนอย่างที่เราพูด คือ แรงกดดันที่จักรวาลกำลังสร้าง ไม่เพียงแต่ให้กับบุคคลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงส่วนรวมด้วย มันกำลังพาคุณไปถึงจุดที่คุณไม่มีทางเลือกอื่นเลย เหลือแค่สองทางเลือก คือ เดินหน้าต่อไปบนเส้นทางที่ไม่ได้ผล และไม่น่าพอใจ หรือไม่ก็คุณเริ่มมองเข้าไปข้างใน และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้คนจำนวนมาก ผู้คนเริ่มมองเข้าไปข้างในเพราะคำตอบไม่ได้อยู่ภายนอก นี่คือสิ่งที่ฤๅษีทุกคน นี่คือนักบุญทั้งหมด นี่คือสิ่งที่ปรมาจารย์ผู้บรรลุธรรมได้พูดถึง ศาสดาที่ผ่านเข้ามา ผ่านวิญญาณที่สวยงามเหล่านั้น ผู้เป็นดั่งแสงนำทางสำหรับมนุษยชาติ พระเยซูคือพระพุทธเจ้าของโลก และคุณถูกบังคับให้ทำงาน มองหาคำตอบจากภายใน ซึ่งทรงพลังกว่าการทำงานมาก และมันจะเป็นเช่นนั้น มันไม่ง่าย คุณจะต้องทำ คุณกำลังจะมีสิ่งนี้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่คนไม่ค่อยทำสมาธิเท่าที่ควร เพราะเมื่อพวกเขาเริ่มทำสมาธิ หนึ่ง พวกเขาจะเริ่มตัดสินมัน หรือสอง พวกเขาจะไม่เพียงแค่เริ่มตัดสินมัน แต่จะเริ่มมีเรื่องแย่ๆ เกิดขึ้น ซึ่งพวกเขาไม่อยากจะจัดการด้วย และพวกเขาก็จะคิดว่า คุณรู้ไหม ฉันไม่อยากพูด ฉันไม่อยากพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันตอนเด็ก ฉันไม่อยากพูดถึงสิ่งที่คนคนนั้นทำกับฉัน ฉันไม่อยากพูดถึงความล้มเหลวของฉันหรือความเจ็บปวดที่ฉันได้รับในชีวิต ฉันไม่อยากเดินไปตามทางนั้น แต่ไม่ต้องทำงานภายในหรือที่เรียกว่าการทำงานในเงามืด ใช่แล้ว เงามืดนั้นไม่สามารถออกมาจากรังไหมได้ และนั่นก็ถูกต้องแล้ว มนุษย์กำลังเผชิญอยู่

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 1:06:58
และคุณรู้ไหม คุณได้พูดประเด็นที่ดีจริงๆ เกี่ยวกับงานเงา ดังนั้นมันจึงกลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจว่าคำพูดต่างๆ กลายเป็นที่นิยมได้อย่างไร เช่น ความเจ็บปวดที่กลายเป็นที่นิยมและงานเงาโดยที่ผู้คนไม่เข้าใจจริงๆ ว่าพวกเขากำลังพูดถึงอะไร ใช่ไหม คุณรู้ไหม และถ้าเราไม่มองเงาของเรา ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เรามี ที่เราอยากจะปฏิเสธเกี่ยวกับตัวเองและผู้อื่น สิทธิ์ของโซนี่ เราจะไม่เปลี่ยนแปลง เราทำไม่ได้ เพราะมันจะดึงเรากลับไปอยู่ตลอดเวลา คุณรู้จักผีหิวโหยเหล่านั้นที่คุณรู้ว่า ความปรารถนาที่ไม่ได้รับการตอบสนอง คุณสมบัติในบุคลิกภาพของเรา ข้อบกพร่องในตัวตนเหล่านั้น คือสิ่งที่พวกมันพูด หรือความแปลกประหลาดในตัวเราที่ทำให้เราวนเวียนอยู่ในวงล้อหนูแฮมสเตอร์เช่นกัน โอ้ ฉันจะทำสิ่งที่เป็นเงื่อนไขต่อไป หวังว่าฉันจะทำสิ่งเดียวกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยคาดหวังผลลัพธ์ที่แตกต่างออกไป และถ้าเราทำในสิ่งที่เราทำ เราก็จะได้รับสิ่งที่เราได้รับ ดังนั้นความเต็มใจนั้นจึงเป็นสิ่งที่ทำให้เราเข้ามาเกี่ยวข้อง น่าสนใจที่เราเห็นว่ามีการผลักดันให้แต่ละคนมีความเป็นปัจเจกและความจำเป็นที่กลุ่มคนจะมารวมกันและจับมือกัน คุณรู้ไหมว่า มันไม่เกี่ยวกับตัวฉัน ตัวฉันที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งอยู่ที่นี่เพื่อทำหน้าที่ของฉัน สามารถรับใช้พวกเราได้ ดังนั้น มันมีสองสิ่ง แต่เราไม่ได้อยู่แบบปัจเจก เราพูดว่า อ๋อ นี่คือวิธีที่ฉันมาถึงส่วนที่แท้จริงนี้ มาทำสิ่งนี้ด้วยกันเถอะ และฉันคิดว่านั่นเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำไมชุมชนมากมายจึงเกิดขึ้น นั่นคือเหตุผลที่รายการของคุณจึงได้รับความนิยม นั่นคือเหตุผลที่คุณรู้ว่าเราต่างก็ต้องการกันและกันในตอนนี้ เราต้องไม่อยู่ในห้องเสียงสะท้อนเช่นกัน พูดง่ายๆ ว่า วิธีของฉันคือวิธีเดียวเท่านั้น วิธีทางจิตวิญญาณ มีเส้นทางมากมายสู่การตรัสรู้ เลือกทางที่คุณสนใจ คุณรู้ใช่ไหม ไม่มีวิธีเดียวเท่านั้น

อเล็กซ์ เฟอร์รารี 1:08:43
นั่นคือสิ่งที่น่าสนใจสำหรับฉันมาก เมื่อผู้คนรู้สึกว่าสงครามกำลังเกิดขึ้นเพราะระบบความเชื่อของผู้คน ใช่ และพวกเขามีความเย่อหยิ่งที่จะเชื่อว่านี่คือวิธีของพวกเขาเท่านั้นที่บรรดาปรมาจารย์ทุกคนที่เดินบนโลกนี้เริ่มต้นขึ้น ศาสนาที่ยิ่งใหญ่และยึดมั่นในลัทธิและปรัชญาทางจิตวิญญาณมากมาย พวกเขาทั้งหมดต่างกัน แต่อาจกล่าวได้ว่าสิ่งที่คล้ายคลึงกันมาก พระพุทธเจ้า พระเยซูอนุญาตให้คุณพูดว่า กฤษณะ กฤษณะ พวกเขาทั้งหมดพูดสิ่งที่คล้ายคลึงกันมาก แต่รสชาติต่างกัน เพราะคุณต้องการสิ่งนั้น และมันก็เหมือนกับว่า ดูสิ รสชาติของฉันคือ คุณรู้ไหม ฉันศึกษาโยคานันดา ฉันรักเส้นทางของเขา แต่เขาเป็นคนที่พูดว่า ไม่ ไม่ ไม่ แต่พระเยซูพูดสิ่งเดียวกัน โอ้ และอีกอย่าง และนอกจากนี้ ยังมีนักบุญผู้ยิ่งใหญ่คนอื่นๆ อีกมากมายและสิ่งอื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน มันเป็นแนวคิดที่ครอบคลุมมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่สิ่งใดก็ตามที่ฟังดูจริงสำหรับคุณ ไม่ใช่วิธีเดียวสำหรับทุกคน ก็เหมือนกับว่าไม่ใช่ทุกคนจะกินสเต็กใช่ไหม? พวกเขาได้รับโปรตีนจากถั่วเขียว คุณรู้ไหม วัฒนธรรมก็เช่นกัน และบางคนก็ได้รับโปรตีนจากถั่วเขียว บางคนก็กินเพื่อเลี้ยงวัว คุณรู้ไหม มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิง มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นเส้นทางทุกเส้นจึงไม่ใช่สำหรับทุกคน ฉันแค่อยากจะพูดแบบนั้น

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 1:10:09
ไม่ และฉันดีใจที่คุณ ฉันดีใจที่คุณ คุณ ใช่แล้ว เหมือนกับเรา คุณ และฉันคิดว่ามันคล้ายกันมาก เราคิดในหลาย ๆ ด้านว่าเราเห็นอะไร ฉันชอบความไม่เคารพของคุณเช่นกัน เพราะฉันคิดว่าเราจริงจังกับตัวเองมากเกินไป ตอนนี้เราอ่อนไหวมาก ในขณะที่ความจริงคือ มันเกิดขึ้นจริงหรือไม่ คุณรู้ไหม ฉันหมายความว่า มันเหมือนกับว่ามันกำลังเกิดขึ้น มันกำลังลดลง เราจะไม่ย้อนกลับไป เรากำลังก้าวไปข้างหน้าสู่สิ่งที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน มันไม่เคยเกิดขึ้นในช่วงชีวิตของเรามาก่อน และหนทางที่จะไปต่อในหลายๆ ด้านก็เช่นกัน คุณรู้ไหม คำสอนที่เก่าแก่ที่สุดบางข้อยังคงใช้ได้ในปัจจุบัน คำสอนที่สะอาดที่สุด คุณรู้ไหม มันถูกต้อง ดังนั้น คุณรู้ไหม เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อประดิษฐ์ล้อขึ้นมาใหม่ กลับไปที่รูปแบบที่ง่ายที่สุดคือ รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเอง คุณรู้ไหม ทำต่อผู้อื่น คุณรู้ไหม กฎทองก็คือให้อาหารแก่คนหิวโหย มันเหมือนกับว่า คุณรู้ไหม

อเล็กซ์ เฟอร์รารี 1:11:06
อาณาจักรแห่งสวรรค์อยู่ภายในตัวคุณใช่ไหม

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 1:11:08
เหมือนกับว่าส่วนใหญ่แล้วคือ I Am ใช่ไหม? และงานที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ คุณจะทำไหม? นั่นไม่ใช่สิ่งที่พระเยซูตรัสไว้เมื่อพระองค์ทำขนมปังและเกิดเหตุการณ์ขึ้นใช่ไหม? คุณรู้ไหมว่า มันเหมือนกับว่า และเราต่างก็พูดถึงความจริงที่ว่าทุกอย่างไม่ว่าจะมาจากที่ใด ล้วนบอกเป็นนัยว่าเราเป็นหนึ่งเดียวกัน ความสามัคคีคือความจริงอันดับหนึ่งของเรา เราทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกัน เราเป็นหนึ่งเดียว หนึ่งเดียวคือบาปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา เราพลาดเป้า บาปหมายถึงพลาดเป้า ไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นคนเลว คุณพลาดเป้า คุณเป็นสิ่งมีชีวิตทางจิตวิญญาณที่มีประสบการณ์แบบมนุษย์ ใช่ไหม? และคุณปล่อยให้ประสบการณ์แบบมนุษย์ของคุณดำเนินไปเมื่อจิตวิญญาณหรือโลก โลกที่มองไม่เห็น เป็นโลกหลัก โลกแห่งความสอดคล้อง โลกแห่งจิตสำนึกที่สูงขึ้น เราเข้าถึงสิ่งที่รู้จักศีลธรรมตามธรรมชาติ สิทธิตามธรรมชาติ? มันเป็นธรรมชาติของเราที่จะอยู่ร่วมกันได้ นั่นคือสิ่งที่ธรรมชาติได้รับ ไม่ใช่ว่าการอยู่รอดของผู้แข็งแกร่งที่สุดจะเป็นสิ่งที่อยู่รอดได้ แต่เป็นการอยู่รอดของผู้ที่เหมาะกับผู้อื่นมากที่สุด ใช่ไหม? มันก็เหมือนกับการเล่นอย่างใจดีในกล่องทรายนั่นแหละ ฉันไม่รู้ว่าใครพูดแบบนั้น แต่เหมือนกับพระเยซูเลย

อเล็กซ์ เฟอร์รารี 1:12:17
ฉันคิดว่าพระเยซูตรัสว่า

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 1:12:18
ใช่แล้ว ในกระบะทราย คุณรู้ว่านั่นเป็นหนึ่งในสิ่งที่คุณมีเป็นเธรดที่ดำเนินไปในรายการของคุณ ไม่ว่าคุณจะสัมภาษณ์ใครในบางจุด ไม่ว่าเรื่องลึกลับแค่ไหน และเรามีพรสวรรค์และทักษะแปลกๆ มากมายเพียงใด เพราะฉันมีอีกมากมาย แต่เหมือนกับว่า ไม่ว่าผลลัพธ์สุดท้ายจะเป็นอย่างไร หากเราทำสิ่งนี้ เราอยู่ที่นี่เพื่อช่วยให้ผู้คนค้นพบตัวเอง สำหรับฉัน มันเป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงส่วนบุคคล ถ้าฉันสามารถช่วยดูแลบางสิ่งให้คนอื่นโดยที่ฉันไม่ต้องกำหนดกฎเกณฑ์ใดๆ ของตัวเองลงไป มันก็เหมือนกับว่า นี่ ลองดูสิ นี่คือสิ่งที่ได้ผลสำหรับฉัน คุณก็ลองทำเช่นกัน ใช่ไหม เมื่อฉันถ่ายทอดสำรับไพ่ Oracle ของฉัน มันเป็นประสบการณ์ที่แปลกประหลาดที่สุด คุณรู้ไหม อย่างเช่นเมื่อเร็วๆ นี้ เมื่อฉันทำไกด์ทั้งหมดของ Hidden Realms สำรับไพ่ ฉันหมายความว่า มันเหมือนกับว่ามีคนย้ายฉันออกไปและฉันต้องวาดรูป ฉันไม่ได้หยิบพู่กันมา 30 ปีแล้ว เหมือนไปทำแบบนี้ คุณรู้ไหม ฉันแบบว่า โอ้ เป็นยังไงบ้าง

อเล็กซ์ เฟอร์รารี 1:13:17
ฉันขอถามคุณหน่อยว่า ใช่ สำหรับคนที่กำลังฟังอยู่ตอนนี้ ซึ่งกำลังหวาดกลัวอนาคตอย่างมาก หวาดกลัวช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ ส่วนที่เหลือของปีหน้า และส่วนที่เหลือของทศวรรษนี้ คุณมีคำแนะนำอะไรสำหรับพวกเขาบ้าง เมื่อรู้ว่าคุณได้เห็นอะไรมาบ้างสำหรับมนุษยชาติ?

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 1:13:32
โอ้ ฉันอยากจะกอดพวกเขา เหมือนกับว่าฉันเป็นแม่ของเด็กกำพร้าทุกคนใช่ไหม ฉันหมายความว่า เราต้องกอดตัวเอง เราต้องให้ใบผ่านเข้าห้องขัง นี่จะน่ากลัวนิดหน่อย และต้องทีละวัน หากคุณใช้ชีวิตได้ 24 ชั่วโมงต่อครั้ง และไว้วางใจในความสัมพันธ์หลักกับวิญญาณหรือพลังที่สูงกว่าของเรา คุณจะรู้ว่าคุณต้องมองดูโลกภายนอกเพื่อบอกคุณว่าคุณโอเคหรือไม่ เช่น ทำสมาธิมากขึ้น ฉันรู้ว่ามันฟังดูดีและง่ายมาก แต่ฉันเชื่อว่าโลกนี้จะเป็นโลกที่สวยงาม มีความสวยงามมากกว่าความน่าเกลียด ความเจ็บปวดที่เรากำลังเผชิญอยู่นั้นเหมือนกับความเจ็บปวดจากการคลอดบุตร ไม่ใช่ความเจ็บปวดที่แสนสาหัสที่เราถูกทำให้บอบช้ำโดยไม่จำเป็น แต่คือเรากำลังอยู่ในกระบวนการที่สวยงามนี้ ฉันตื่นเต้น จริงๆ แล้ว ฉันมีความหวังมาก ฉันหวังไว้มาก คุณรู้ไหม และมันจะไม่ใช่การทำลายล้างแบบที่คุณพูด มันไม่ใช่จุดจบของโลก มันคือการสิ้นสุดของโลกของเรา และเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งใหม่และสวยงาม และฉันจะยึดมั่นในสิ่งนี้ ฉันเชื่ออย่างนั้น ทุกๆ วันที่ตื่นขึ้น ฉันก็จะคิดว่า อืม มาดูกัน ใช่ไหม ฉันแค่คิดว่านี่เป็นวิธีหนึ่งที่เราจะยอมจำนนต่อความกลัวของเราต่อพลังที่ยิ่งใหญ่ในตัวเรา ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม รู้ว่ามันคืออะไร ฉันไม่สนใจว่าคุณจะเรียกมันว่าอะไรก็ตาม แค่เชื่อใจว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียว

อเล็กซ์ เฟอร์รารี 1:15:06
ข้อความที่สวยงาม สวยงาม สวยงาม ฉันหวังว่าผู้ฟังจะรับเอาไปใช้ได้ เพราะคุณรู้ไหม ฉันถามคำถามนี้ ฉันถามเกี่ยวกับเรื่องนี้บ่อยมากในรายการ เพราะฉันเชื่อว่าเป็นหน้าที่ของฉันที่จะให้ผู้คนรู้ เพราะพวกเขากลัว พวกเขากำลังมองหาคำตอบในโลกที่ไม่แน่นอน และบางครั้งพวกเขาก็มาที่รายการเพื่อค้นหาคำตอบเหล่านั้น และนักพยากรณ์หรือผู้มีญาณทิพย์หรือสื่อกลางหรือช่องทาง พวกเขามีความเชื่อมโยงกับอีกด้านหนึ่ง และมีความเชื่อมโยงกับศักยภาพของอนาคต แต่เหมือนที่ฉันบอกคุณก่อนที่คุณจะเริ่มพูดถึงเรื่องนี้ ทุกสิ่งที่คุณพูด ฉันเคยได้ยินมาก่อน ไม่มีอะไรใหม่ เหมือนกับว่ามันไม่ใช่ข้อมูลใหม่ มันขึ้นอยู่กับวิธีการที่คุณนำเสนอ ใช่ แต่ขึ้นอยู่กับวิธีการที่คุณนำเสนอ รสชาติที่คุณนำเสนอ ความหวังที่คุณใส่เข้าไป แต่ฉันหวังว่าผู้คนจะรับเอาสิ่งที่ได้รับไป แต่เพียงเพราะบางสิ่งกำลังจะไม่น่าพอใจ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่ได้เห็นดวงอาทิตย์อยู่อีกด้านหนึ่งของมัน คุณรู้ไหม นั่นคือชีวิต นั่นคือสิ่งที่เราทุกคนเคยผ่านมา มนุษย์ทุกคนบนโลกต่างต้องดิ้นรนในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่รวยที่สุดในโลกหรือคนที่จนที่สุดในโลก เป็นที่รักที่สุดหรือรักน้อยที่สุด เราทุกคนล้วนเคยผ่านมาบ้าง ถ้าไม่เป็นอย่างนั้น เราคงไม่ได้อยู่ตรงนี้ ใช่ไหม?

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 1:16:31
อีกอย่างหนึ่งก็คือ ตัวตนที่แท้จริงของเรามีศักยภาพสูงสุด และนั่นคือสิ่งเดียวที่คุณต้องทำ อย่ารอให้โลกสงบลง แล้วคุณค่อยไล่ตามความฝันของคุณ นั่นคืออีกสิ่งหนึ่ง ใช่ไหม คุณอยู่ที่นี่ถ้าคุณรู้สึกว่าถูกเรียกร้องหรือคุณได้รับแรงบันดาลใจ เพราะแรงบันดาลใจเป็นของขวัญ นั่นคืออีกสิ่งหนึ่ง อย่ายอมแพ้ต่อความกลัวของคุณ เพราะคุณจะไม่เหลือพื้นที่ให้กับแรงบันดาลใจ แรงบันดาลใจเป็นของขวัญที่มนุษย์ทุกคนมี ไม่สำคัญว่าจะใหญ่หรือเล็กเพียงใด สิ่งสำคัญคือคุณได้รับแรงบันดาลใจให้ก้าวไปข้างหน้า ลงมือทำ เพราะโลกใบนี้มีทั้งสองอย่าง และสิ่งนี้และสิ่งนั้นจะเป็นจริง สิ่งนี้จะเป็นจริงที่ฉันมีความหวังและฉันรักมนุษยชาติ และฉันเชื่อว่าเราทุกคนได้รับโอกาสครั้งที่สอง และฉันเชื่อจริงๆ ว่าสิ่งดีๆ จะเกิดขึ้นจากทุกสิ่งที่ใครก็ตามกำลังเห็นอยู่ในขณะนี้ ฉันเชื่อจริงๆ ฉันเชื่อว่าถ้าคุณไม่สามารถหว่านเมล็ดพันธุ์ลงในดินที่แข็งมากได้ มันก็จะไม่ยอมรับสิ่งใหม่ คุณต้องใช้จอบขุดมันให้แตกออก ใช่ไหม คุณต้องขุดมันให้แตกออก คุณต้องขุดดินให้แตกออก และนั่นคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ และการเติบโตใหม่ก็เกิดขึ้นอย่างแน่นอน และใช่ คุณรู้ไหมว่า ถ้าคุณเป็นก้อนทราย ถ้าคุณอยู่ในนั้น คุณจะคิดว่า นั่นคือที่ที่ฉันรู้สึกปลอดภัยที่สุด คุณรู้ไหม ความปลอดภัย มันเหมือนกับว่าเราต้องไว้วางใจในบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า โอเค และโอเคกับความกลัวของเรา นั่นเป็นอีกสิ่งหนึ่ง มันเหมือนกับว่าต้องเป็นมิตรกับมัน เหมือนกับว่าแทนที่จะพูดว่า อย่ามีสิ่งนั้น ฉันทนกับความรักและแสงสว่างทั้งหมดนั้นไม่ได้ ทุกอย่างจะเป็นความรักและแสงสว่าง และเหมือนกับว่า เราจะข้ามผ่านทุกอย่างที่เกิดขึ้น ไม่ ไม่ ไม่ มันทั้งสองอย่าง และมันก็ เฮ้ นี่มันกำลังเกิดขึ้น ฉันรู้สึกไม่สบายใจจริงๆ โอ้ ว้าว และฉันก็รู้สึกกลัว แล้วก็แบบว่า ใช่แล้ว และคุณรู้ไหมว่า มีพลังที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวฉันที่รู้ดีกว่าฉัน และฉันอาจไม่ได้รับข้อมูลนั้น ดังนั้น ฉันจึงถูกเรียกให้ทำสิ่งนี้ ฉันจะทำสิ่งนี้ในขณะที่ฉันสังเกตว่า คุณรู้ไหม มันเกี่ยวกับการไม่เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง มันคือการอยู่กับสิ่งที่เป็นอยู่ เพราะนั่นคือที่ที่อิสรภาพอยู่ ไม่ใช่การพยายามเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตามที่อยู่ตรงหน้าเรา ยกเว้นตัวเราเอง

อเล็กซ์ เฟอร์รารี 1:18:38
พูดได้สวยงามมาก ตอนนี้โคเล็ตต์ ฉันจะถามคำถามคุณสองสามข้อ ถามแขกทุกคนของฉันสิ โอเค คุณนิยามชีวิตที่สมบูรณ์แบบของคุณว่าอย่างไร

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 1:18:46
การได้สร้างสรรค์ มีสุนัข รักสามี มันคือความคิดสร้างสรรค์ มันคือความสามารถในการสร้างสรรค์และมีโอกาสสร้างสรรค์ และรู้ว่าอะไรคือชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ฉันใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ฉันอาศัยอยู่กลางทุ่งในฟาร์มขนาดใหญ่ ฉันรักธรรมชาติ เห็นว่าคนอื่นๆ สามารถได้รับผลกระทบในทางบวกจากสิ่งที่ฉันทำ ฉันไม่สนใจว่ามันคืออะไร และยังคงได้ทำไพ่พยากรณ์ สำหรับฉัน มันเป็นเหมือนงานเล็กๆ น้อยๆ ที่บ้าระห่ำ ซึ่งฉันรู้ว่าฉันต้องทำ มันคือสิ่งที่ฉันถูกเรียกร้องให้ทำ และฉันรักการทำสิ่งเหล่านี้ นั่นคือความคิดสร้างสรรค์ของฉัน มันคือการวาดภาพ ฉันไม่รู้เหมือนกัน เหมือนกับดนตรี ฉันกลับมาทำดนตรีอีกครั้ง คุณคงรู้ว่าการบรรลุความสำเร็จนั้นก็คือการรู้เช่นกัน และฉันจะไม่พูดถึงสันติภาพโลก เหมือนอย่างที่คุณรู้ เราไม่ได้อยู่ในงานประกวด แต่การไว้ใจว่าฉันจะไม่บรรลุความสำเร็จถ้าไม่มีพระเจ้าในชีวิต ฉันจะพูดตรงๆ ว่าถ้าฉันไม่มีพลังบางอย่างในตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นจิตสำนึก หรืออะไรก็ตาม ฉันสามารถมองเห็นจิตวิญญาณในทุกสิ่งที่ต้องมีอยู่ในชีวิตเพื่อให้ฉันรู้สึกบรรลุความสำเร็จ

อเล็กซ์ เฟอร์รารี 1:19:59
ถ้าคุณมีโอกาสย้อนเวลาไปพูดคุยกับโคเล็ตต์ตัวน้อย คุณจะให้คำแนะนำอะไรกับเธอ?

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 1:20:04
อย่าไปสนใจมัน ฉันคิดว่าคุณจะโอเคขึ้นเยอะ ทุกสิ่งที่คุณจะต้องเผชิญจะนำของขวัญมาให้คุณ แม้แต่คนที่เจ็บปวดที่สุดก็ยังไว้ใจได้ ฉันอยากบอกเธอให้ไว้ใจ และเธอจะไม่มีวันอยู่คนเดียวจริงๆ

อเล็กซ์ เฟอร์รารี 1:20:27
คุณให้คำนิยามพระเจ้าหรือแหล่งที่มาอย่างไร?

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 1:20:29
จิตสำนึกที่ฉลาดกว่ามนุษย์? เพราะคุณรู้ดีว่าสำหรับฉัน พระเจ้าและแหล่งกำเนิดก็เป็นกลางเช่นกัน ดังนั้นมันจึงสะท้อนให้ฉันเห็น ถ้าฉันพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึงความชั่วร้าย ฉันจะเห็นว่าฉันมีความสัมพันธ์ที่แท้จริงกับมัน มันไม่ใช่สิ่งที่อยู่ภายนอกฉัน มันเป็นสิ่งที่ฉันเป็นส่วนหนึ่ง ดังนั้น พระเจ้า แหล่งกำเนิด ฉันเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งนั้น ดังนั้น ฉันมีความรับผิดชอบต่อความสัมพันธ์แบบไดนามิกที่ฉันมีกับแหล่งกำเนิด และฉันรับผิดชอบต่อสิ่งที่ฉันเผยแพร่สู่โลก เพราะมันจะให้สิ่งที่ฉันพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าแก่ฉัน และฉันถูกปรับสภาพให้พูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า นั่นคือสิ่งที่ฉันเชื่อ ฉันเชื่อในความเมตตากรุณาของมัน แม้ว่าฉันจะไม่มองว่ามันเป็นซานตาคลอส เหมือนกับว่าฉันเป็นคนดีที่นี่ ให้ของขวัญฉันหน่อย ใช่ไหม? ไม่เลย แต่ฉันเชื่อว่ามันเป็นที่มาของความคิดสร้างสรรค์ทั้งหมด และฉันได้เป็นส่วนหนึ่งของมัน และฉันจะกลับมาทำมันอีกครั้งเมื่อฉันทำเสร็จแล้ว

อเล็กซ์ เฟอร์รารี 1:21:29
ความรักคืออะไร?

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 1:21:30
ความรักคือที่มา โอเค ความรักในขณะนี้คือกลิ่นหัวลูกสุนัข ลมหายใจของลูกสุนัขคือความรัก ที่นี่ การแบ่งปันคือความรัก ไม่ใช่การเอาใจคนอื่น ฉันต้องเรียนรู้บางอย่างที่ฉันต้องใช้เวลานานมากในการเรียนรู้การพึ่งพากัน สิ่งต่างๆ ที่ฉันไม่ได้ช่วยจริงๆ เมื่อฉันพยายามช่วย ฉันก็ต้องตระหนักเช่นกัน เมื่อเป็นเช่นนั้น เมื่อฉันไม่สามารถช่วยผีเสื้อที่ดิ้นรนออกจากรังได้ เพราะฉันคิดว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ดังนั้น การมีชีวิตอยู่และปล่อยให้ชีวิตดำเนินไปคือความรัก คุณรู้ไหม การยอมรับ การยอมรับอย่างสุดโต่งคือความรัก และฉันหมายความว่า ความหวังเป็นแง่มุมหนึ่งของความรัก คุณรู้ไหม ใช่ ฉันคิดว่าความรักคือแหล่งที่มาของจักรวาลทั้งหมด

อเล็กซ์ เฟอร์รารี 1:22:31
หากคุณมีโอกาสถามพระเจ้าหรือแหล่งที่มาหนึ่งคำถาม คุณจะถามอะไร?

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 1:22:36
ฉันอยากเรียนรู้ที่จะไม่กลัวอะไรมากขึ้น ดังนั้นฉันคิดว่าฉันจะถามพระเจ้าว่า ฉันจะไว้วางใจพระองค์มากขึ้นได้อย่างไร และจะไม่ยอมแพ้ต่อความกลัวนั้นได้อย่างไร ฉันไม่ต้องการที่จะพูดแต่เรื่องไร้สาระเกี่ยวกับชะตากรรมของตัวเอง แต่บางครั้งฉันก็สงสัยว่าฉันจะใช้ชีวิตอย่างไรหากขาดสิ่งนั้นไป และอีกอย่างหนึ่งคืออย่างไร ฉันจะทำอย่างไร ฉันอยากจะพูดว่า ฉันจะรักษาสุนัขของฉันได้อย่างไร แต่ไม่เลย นั่นเป็นบทสนทนาส่วนตัวของฉันกับพระเจ้า ซึ่งฉันไม่ได้รับคำตอบ แต่ใช่แล้ว

อเล็กซ์ เฟอร์รารี 1:23:14
ถูกต้องครับ แล้วจุดมุ่งหมายสูงสุดของชีวิตคืออะไร?

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 1:23:18
ใช่แล้ว การสร้างสรรค์ ฉันคิดจริงๆ ว่าจะร่วมสร้างสรรค์ เป็นหุ้นส่วนกับจิตวิญญาณ และร่วมกันสร้างความเป็นจริงที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น ไม่ใช่แค่สำหรับตัวเองเท่านั้น

อเล็กซ์ เฟอร์รารี 1:23:28
แล้วผู้คนสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณและผลงานที่น่าทึ่งที่คุณกำลังทำอยู่ในโลกได้จากที่ไหน?

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 1:23:31
เพียงไปที่เว็บไซต์ colettebaronreid.com ของฉัน เราจะให้ลิงก์แก่คุณ ฉันมีจดหมายข่าว ฉันแจกของฟรีตลอดเวลา ฉันมีสำรับไพ่ Oracle 19 สำรับ ฉันมีหนังสือ ฉันมีหนังสือเกี่ยวกับศิลปะเล่มใหม่ที่จะออกในฤดูใบไม้ร่วง ไซต์สมาชิกของฉัน ฉันอ่านหนังสือที่นั่นสองครั้งต่อเดือน แต่ลองเข้าไปดูสิ ดูสิ ฉันอยากรู้ว่าคุณชอบฉันไหม นั่นคือ colettebaronreid.com

อเล็กซ์ เฟอร์รารี 1:23:57
และคุณมีข้อความอำลาถึงผู้ชมบ้างไหม?

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 1:23:59
ใช่แล้ว กอดตัวเองซะหน่อย มอบบัตรผ่านให้กันและกัน เราทำสิ่งนี้ร่วมกัน และใช้เวลารักให้มากขึ้นและใช้เวลาตัดสินตัวเองให้น้อยลง คุณรู้ไหม โดยเฉพาะกับตัวเอง

อเล็กซ์ เฟอร์รารี 1:24:17
โดยเฉพาะตัวคุณเอง โคเล็ตต์ ขอบคุณมากสำหรับการสนทนาครั้งนี้ ฉันรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติมากที่ได้พูดคุยกับคุณในวันนี้ และฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการสนทนาครั้งนี้จะช่วยเยียวยาและนำความสงบสุขมาสู่ผู้ที่กำลังรับชม ฉันซาบซึ้งในตัวคุณและทุกสิ่งที่คุณทำเพื่อปลุกโลกใบนี้ให้ตื่นขึ้น ขอบคุณมาก

โคเล็ตต์ บารอน-รีด 1:24:35
ขอบคุณที่เชิญฉันมา มันสนุกมาก